รวบหนุ่ม เปิดเพจเฟซบุ๊กหลอกขายหน้ากากอนามัย

บก.ปคบ.รวบหนุ่มลวงโลก หลังเปิดเพจเฟซบุ๊กหลอกขายหน้ากากอนามัย ตุ๋นเหยื่อกว่า 200 คน สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องการมากแม้ว่าในตอนนี้จะมีราคาสูง อีกทั้งยังขาดตลาดในหลายพื้นที่ จึงทำให้มีผู้ไม่หวังดี หลอกลวงขายหน้ากากอนามัยโก่งราคา โดยส่งสินค้าที่ทั้งไร้คุณภาพ ทั้งหนีหายไม่ส่งของจนทำให้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวัชรพงษ์ โยกาศ หรือโหน่ง อายุ 27 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 319/2563 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2563 พร้อมของกลางจำนวน 12 รายการ
ซึ่งผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,ร่วมกันประกอบธุรกิจดำเนินการใดๆ (ขายหน้ากากอนามัย) โดยจงใจที่จะทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทำให้ปั่นป่วน ซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด และร่วมกันฟอกเงิน" จับกุม เขตราชทวี กรุงเทพมหานคร

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจได้สืบสวนขยายผลทราบว่านายวัชรพงษ์ ผู้ต้องหา เป็นผู้เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ "Mask หน้ากากอนามัย ราคาโรงงาน-ปลีกส่ง" และอีกหลายเพจ เพื่อใช้ในการหลอกลวงขายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนทั่วไป แต่ไม่มีหน้ากากอนามัยขายจริง โดยผู้ต้องหาได้เปิดเพจมาประมาณ 6 วัน มีผู้เสียหายประมาณ 200 คน หลงเชื่อได้ ติดต่อเพจดังกล่าวเพื่อซื้อหน้ากากอนามัยมีมูลค่าความเสียหายเกือบ 3 ล้านบาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนายวัชวิทย์ สุภาษิต ซึ่งจากการตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงินของบัญชีดังกล่าวพบว่าหลังจากที่ผู้เสียหายได้โอนเงินมาเข้าบัญชีดังกล่าวแล้ว จากนั้นผู้ต้องหาได้ทำธุรกรรมโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคาออมสิน บัญชีชื่อนาย วัชรพงษ์ โยกาศ (ผู้ต้องหา) นี้ จำนวนเงิน 830,000 บาท ถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคาร
ภาพจากอีจัน
พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว จนกระทั่งฝ่ายสืบสวนได้บสวนทราบว่าผู้ต้องหามาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดลุมพินีสวีท ระหว่างซอยเพชรบุรี 37-39 ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เชตราชเทวี กรุงเทพมหานครจึงได้เข้าตรวจสอบ กระทั่งเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 เวล 15.45 น. ชุดสืบสวนสังเหตุเห็นผู้ต้องหากำลังเดินเข้าคอนโดดังกล่าว จึงได้แสดงตัวพร้อมหมายจับให้ผู้ต้องหาดู โดยผู้ต้องหให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายนี้มาก่อน เจ้าหน้ที่ชุดจับกุมจึงได้แง้สิทธิ์ตามกฎหมายและข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบและความคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี