ใครสร้างความสับสนให้กับชาวบ้าน?

ป่าแก่งกระจาน ในพื้นที่บริเวณ อำเภอหนองหญ้าปล้อง
จังหวัดเพชรบุรี วันนี้กำลังกลายเป็นภูเขาเถ้าถ่าน ทั้งๆที่เมื่อต้นปี ยังเป็นป่าสมบูรณ์

แต่ 3 สัปดาห์ก่อนหน่วยพญาเสือตรวจพบมีการบุกรุก และเผาป่าลุกลามถึงป่าสมบูรณ์อย่างรุนแรง จึงเริ่มปฏิบัติการภารกิจ ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 63 เพื่อสืบสวนหาหลักฐาน การเผาป่าครั้งนี้

โดยก่อนจะเริ่มหัวหน้าหน่วยพญาเสือ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต และ นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูรย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้นำข้อมูลหลักฐานแผนที่พร้อมภาพถ่ายประกอบ รายงานกับนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว ทส และได้รับนโยบายดังนี้ 1 ต้องดำเนินการอย่างเป็นธรรมต่อประชาชนที่อยู่เดิม 2 ต้องใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือ ภาพถ่ายดาวเทียม ย้อนทุกชั้นปี 3 ถ้าเป็นไปตามรายงาน ให้หาบุคคลที่บุกรุกและถ้ามีนายทุน อยู่เบื้องหลังให้ดำเนินการ อย่างเด็ดขาด 4 ถ้ามี.จนท ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องหาหลักฐาน และเอาผิดอย่าละเว้น 5 และถ้าทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รู้เห็นหรือ ละเลย ละเว้น หรือ ปล่อยปะละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ให้ ผอ. สำนัก สาขาเพชรบุรี ตั้งกรรมการสอบสวน แล้วรีบรายงาน 6 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการโดยเร่งด่วน

ต่อมา วันที่13 มีนาคม นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว ทส ได้รับคำสั่งจาก รมว. ทส นายวราวุธ ศิลปอาชา ให้เข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุพร้อมทั้งให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ และ ทำความเข้าใจกับพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนที่มีผลกระทบ ชี้แจ้ง ทำความเข้าใจ เพื่อมิให้เกิดความขัดแย้ง และจะไม่มีการเมือง เข้ามาหาผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด

นายยุทธพล อังกินันทน์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานจากผู้นำชุมชน ว่ามีการเปิดที่ทำกินจริง และทำให้เกิดไฟป่าจริง แต่ยืนยันเป็น ชาวบ้านที่เคยทำกินอยู่เดิมมิได้เข้าไปเปิดพื้นที่เกินกว่า ที่ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาขีดเขตให้ แต่ในจุดที่เผาเห็นในภาพข่าว และ ในตามแผนที่นั้น เชื่อเป็นคนที่นอกหมู่บ้าน ไม่ใช่คนในหมู่บ้าน ก่อเหตุจนทำให้เกิดไฟป่า ลุกลามเข้าไปในป่าและภูเขา ทำลายจนความเสียหายอย่างหนัก

นายยุทธพล ได้บอกฝากถึงชาวบ้านที่อยู่กินดั้งเดิม ว่า ไม่ต้องกังวล หากตรวจสอบและพิสูจน์จากภาพถ่ายดาวเทียม ก็จะทราบทันทีว่า ท่านทำกินก่อน หรือ หลัง หากทำกินก่อนตามมติครม. ก็จะไม่มีความผิด และย้ำขอให้หน่วยพญาเสือและ จนท.ทุกหน่วยงาน นำความถูกต้องเป็นธรรมให้กับชาวบ้าน ส่วนความเสียหายของป่าแก่งกระจานและแนวการดำเนินาร มีดังนี้ 1. พบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกนอกเขตควบคุม จำนวน 84 แปลง เนื้อที่ 227 ไร่ (ยังอยู่ในพื้นที่อุทยานแก่งกระจาน) 2 . ดำเนินคดีล่าสัตว์กับเจ้าของแปลงที่รังวัดให้แล้ว หากมีหลักฐานพบซากสัตว์ป่า จะดำเนินการตามระเบียบ ถ้า ผิดและตรงตัว ให้เอาออกจากพื้นที่ และเพิกถอนสิทธิ์ ตาม พรบ อช 2562 นี้ด้วย 3. พื้นที่ทีถูกไฟป่าไหม้ จำนวนนับเป็นพันๆ ไร่ ขอให้ดำเนินการให้เเล้วเสร็จภายในอาทิตย์นี้ 4. สืบหาคนอยู่เบื้องหลังและผู้ที่เผาป่า มาดำเนินคดีให้ได้ 5 ให้ สบอ .3 สาขาเพชร สำรวจความเสียหาย และสำรวจพื้นที่ เพื่อเข้ามาฟื้นฟูป่าให้สมบูรณ์ต่อไป 6. พื้นที่ ที่เป็นแปลงคดี เก่านั้น ห้ามมิให้ผู้ใด เข้าไปทำกินโดยเด็ดขาด ถ้าบุคคลใดเข้าไป ถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้บุกเบิกบุกรุกเดิม และให้ดำเนินคดี ต่อไป 7.ทำการ ยืนยัน ข้อมูลราษฎรที่อยู่มาก่อน และ ตาม พรบ อุทยานแห่งชาติ 2562 ใหม่นี้ ขณะนี้เปิดโอกาสให้ราษฎรเดิมเข้ามาแจ้งรายชื่อว่าตนได้ครอบครองทำกิน มาก่อนปี 2541 และ ระหว่าง 2541-2557 และทำกินต่อเนื่อง หากพิสูจน์พบร่องรอยตามภาพถ่ายดาวเทียม ให้เจ้าของแปลง รีบมาลงชื่อ จะได้สิทธิ์ทำกินในที่ดินที่เดิมที่ทำกินมาก่อน แต่ถ้าตรวจพบมีการซื้อขาย เปลี่ยนมือ หรือบุกรุกขยายแปลง แบบนี้ถือว่าไม่ได้ และต้องถูกดำเนินคดี ตอนนี้ ข้อมูลในพื้นที่สร้างความสับสนให้แกับชาวบ้าน ขออย่าหลงเชื่อ บุลคลที่ไม่หวังดี ให้ข้อมูลของรัฐ และข้อมูลใหม่ ของ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ แบบผิดๆ

ภารกิจ นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว ทส รวมกับ หน่วยพญาเสือ หน่วยเสือไฟ และ ผอ สบอ 3 สาขาเพชร เพื่อหยุด ยับยั้ง การบุกรุกป่า และการเผาป่า อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน