ไปรษณีย์ฯ แจง จนท. ศุลกากร มีสิทธิ์ตรวจพัสดุต้องสงสัย

ไปรษณีย์ไทยแจง เจ้าหน้าที่ศุลกากรมีสิทธิ์ตรวจพัสดุต้องสงสัย หลัง ลูกค้าร้องเรียนถูกค้นพัสดุ

จากกรณีมีผู้ใช้บริการไปรษณีย์ไทย ร้องเรียนผ่านสื่อออนไลน์ว่าถูกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เปิดค้นของที่อยู่ในกล่องพัสดุก่อนที่จะส่งถึงมือลูกค้า ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับเจ้าของพัสดุดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ภาพจากอีจัน
วันนี้ (18 มี.ค. 63) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ออกจดหมายชี้แจงถึงกรณี ดังกล่าวว่า “กรณีที่มีผู้ใช้บริการร้องเรียนผ่านสื่อออนไลน์หลังมีภาพปรากฏออกมาว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าตรวจค้นพัสดุจนเกิดความเสียหายกับพัสดุนั้น ไปรษณีย์ไทยได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการเร่งด่วน พบว่า ที่ทำการไปรษณีย์ที่ถูกกล่าวอ้าง คือ ที่ทำการไปรษณีย์ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งถือเป็นพื้นที่พิเศษที่ติดพรมแดนตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560

ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรมีอำนาจในการเข้าตรวจค้นและอายัดสิ่งของต้องสงสัยที่มีพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาษีหรือละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ผ่านในเส้นทางการขนส่งทั้งระบบขนส่งของรัฐและเอกชนทุกราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบพัสดุต้องสงสัยทั้งไปรษณีย์ไทย และผู้ให้บริการขนส่งเอกชนทุกรายอยู่เป็นประจำ และสามารถตรวจอายัดพัสดุต้องสงสัยได้หากพบความผิดปกติ โดยหลังจากตรวจค้นพัสดุแล้ว หากพบว่าพัสดุดังกล่าวมีลักษณะเลี่ยงภาษีหรือละเมิดลิขสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ฯ จะแยกสิ่งของเหล่านั้นออก พร้อมทำบันทึกอายัด ณ จุดเปิดตรวจ และมีพยานในพื้นที่ หากตรวจไม่พบความผิดปกติ เจ้าหน้าที่ฯ จะทำบันทึกส่งคืน ณ จุดที่เปิดตรวจสอบพร้อมบรรจุกล่องคืน เพื่อให้ที่ทำการไปรษณีย์ส่งต่อตามเส้นทางไปรษณีย์ต่อไป

ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยตระหนักถึงความสำคัญและเคร่งครัดในข้อปฏิบัติมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งระบุสิ่งของละเมิดลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายถือเป็นสิ่งของต้องห้ามฝากส่งผ่านเส้นทางไปรษณีย์ หากตรวจพบไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พร้อมขออภัยหากการปิดผนึกกล่องใหม่มีความเสียหายก่อนส่งกลับเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ โดยมีการกำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยให้ระมัดระวังและดูแลพัสดุทุกชิ้นไม่ให้แตกหักเสียหายตลอดเส้นทางไปรษณีย์ เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้บริการทุกคน และขับเคลื่อนเครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน