ศาลยุติธรรม ประกาศ เลื่อนนัดพิจารณาคดี ลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19

คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ประกาศ ให้ศาลชั้นต้นทุกศาล เลื่อนพิจารณาคดี ที่นัดไว้ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 พ.ค.63

(24 มี.ค. 63) คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ออกประกาศ เรื่อง การบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า

“ด้วยขณะนี้ เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ในแทบทุกภูมิภาคของประเทศไทย ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการขยายตัวของโรคอย่างกว้างขวางคือ การที่ประชาชนจำนวนมาก มารวมกันอยู่ในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งในการนัดพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นในแต่ละวันมีจำนวนคดี จำนวนคู่ความ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมาก จนมีความแออัดอันเป็นกรณีไม่สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาลที่ต้องการลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว เพื่อเป็นการลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไปสู่คู่ความ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาลและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม จึงสมควรกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการบริหารจัดการคดี ประเภทคดีจัดการพิเศษและคดีที่มีกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 (1) และมาตรา 17 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรมพ.ศ. 2543 คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมเห็นสมควรออกประกาศเรื่องการบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดดังนี้

1.ให้ศาลชั้นต้นทุกศาล เลื่อนนัดพิจารณาคดีจัดการพิเศษทุกคดี ที่นัดไว้ในระหว่างวันที่ 24 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 โดยกำหนดวันนัดใหม่ในเวลาที่เหมาะสมยกเว้นคดีดังต่อไปนี้
1.1 คดีอาญา เช่น นัดสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่จำเลยต้องขัง
1.2 คดีแพ่ง เช่น คดีร้องขอจัดการมรดก คดีร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเป็นผู้สาบสูญ คดีร้องขอให้ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์หรือขออนุญาตทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์
1.3 คดีอื่นๆที่เจ้าของสำนวนและองค์คณะพิจารณาเห็นว่าสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาไปได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้องและหากเลื่อนคดีไปอาจทำให้คู่ความทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่ความ

ทั้งนี้ตามข้อ 1.1 ถึงข้อ 1.3 ให้คำนึงถึงจำนวนคดีจำนวนคู่ความ ในห้องพิจารณาและจำนวนบุคคลที่จะต้องมารวมกันที่ศาลและหากมีความจำเป็นไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาโดยปลอดภัยแก่ทุกฝ่ายก็อาจใช้ดุลยพินิจให้เลื่อนคดีไปได้

2.ให้ศาลชั้นต้นทุกศาล เลื่อนนัดพิจารณาคดีสามัญและคดีสามัญพิเศษที่นัดสืบพยานต่อเนื่องทุกคดี ที่นัดไว้ในระหว่างวันที่ 24 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 โดยกำหนดวันนัดใหม่ในเวลาที่เหมาะสมยกเว้นคดี ดังต่อไปนี้

2.1 คดีอาญาที่จำเลยต้องขังระหว่างพิจารณาคดี
2.2 คดีอื่นๆที่คู่ความพร้อมและต้องการจะสืบพยานหรือคดีที่เจ้าของสำนวนและองค์คณะพิจารณาเห็นว่า สามารถดำเนินกระบวนการพิจารณาไปได้โดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้องและหากเรื่องคดีไปอาจทำให้คู่ความทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายโดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่กรณี

ทั้งนี้ตามข้อ 2.1 และข้อ 2.2 ให้คำนึงถึงจำนวนคดีจำนวนคู่ความในห้องพิจารณาและจำนวนบุคคลที่จะต้องมารวมกันที่ศาลและหากมีความจำเป็นไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาโดยปลอดภัยแก่ทุกฝ่าย ก็อาจใช้ดุลพินิจให้เลื่อนคดีไปได้โดยได้รับอนุญาตจากอธิบดีผู้พิพากษา หรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาลซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบราชการศาลแล้วแต่กรณี

3.ในส่วนของการรับฟ้อง ผัดฟ้อง ฝากขัง การปล่อยตัวชั่วคราว การออกหมายจับหรือหมายค้น ตลอดจนกระบวนพิจารณาอย่างอื่นให้คงดำเนินกระบวนพิจารณาตามปกติต่อไป

4.การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีดังกล่าว ให้ถือปฏิบัติตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 2