แบงก์ชาติออก 6 มาตรการ ช่วยลูกหนี้ สินเชื่อสำหรับลูกหนี้สู้โควิด-19

ดีเดย์ 1 เม.ย. นี้ แบงก์ชาติออก 6 มาตรการ ช่วยลูกหนี้สินเชื่อบ้าน-รถ –บัตรเครดิต ลดดอกเบี้ย-ขยายเวลาชำระหนี้ ฝ่าวิกฤติโควิด-19

มาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

วานนี้ (25 มี.ค. 2563) นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ ธปท. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 สถาบันการเงินมีความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มขึ้นจากประมาณ 30,000 ราย ยอดหนี้ 234,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 เป็น 156,000 ราย ยอดหนี้ 310,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563

ภาพจากอีจัน

ต่อมา ธปท. ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อย่างต่อเนื่อง โดยได้ประสานงานและหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการทางการเงินอื่นผ่านสมาคมและชมรมต่าง ๆ รวม 9 แห่ง มีความเห็นตรงกันว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ขยายวงกว้างไปยังประชาชนและธุรกิจในทุกภาคส่วน จึงต้องร่วมมือกันอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามภาวะที่ยากลำบากนี้ได้ จึงตกลงร่วมกันที่จะกำหนดมาตรการขั้นต่ำเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ,เช่าซื้อ ,ลีสซิ่ง ,สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจ SMEs ซึ่งยังไม่เป็นหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน (NPL) มีผลตั้งแต่งวดการชำระหนี้ วันที่ 1 เมษายน 2563 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1. บัตรเครติตและ สินเชื่อเงินสดหมุนเวียน (revolving loan)

-ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ จากเดิม 10% เหลือ 5% (ในปี 2563-2564) 8% (ในปี 2565) 10% (ในปี 2566) นอกจากนี้ ลูกหนี้สามารถปลงหนี้เป็นสินเชื่อระยะยาวที่ดอกเบี้ยต่ำลงได้

2. สินเชื่อส่วนบุคคล ที่ผ่อนชำระเป็นงวด (installment) และ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
– ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFI) เลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
– ผู้ให้บริการอื่นเลือกดำเนินการระหว่าง เลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน หรือ ลดค่างวดอย่างน้อย 30% ของค่างวดเดิม เป็นเวลา 6 เดือน

3. สินเชื่อเช่าซื้อ (hire purchase)
(รถมอเตอร์ไซค์วงเงินไม่เกิน 35,000 บาท,รถทุกประเภท วงเงินไม่เกิน 250,000 บาท)
– เลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน หรือ
-พักชำระหนี้เงินต้น เป็นเวลา 6 เดือน

4.ลิสซิ่ง (leasing ) มูลหนี้คงเหลือไม่เกิน 3 ลบ.

5. สินเชื่อบ้าน วงเงินไม่เกิน 3 ลบ.

6. สินเชื่อธุรกิจ SME ไมโครไฟแนนซ์ ,นาโนไฟแนนซ์ วงเงินไม่เกิน 20 ลบ.
-พักชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสมของลูกหนี้แต่ละราย

หมายเหตุ: ลูกหนี้ที่มีสินเชื่อหลายประเภท สามารถได้รับความช่วยเหลือได้ทุกประเภทตามเงื่อนไข

ภาพจากอีจัน

มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำ โดยผู้ให้บริการทางการเงินแต่ละแห่งยังมีโครงการช่วยเหลือเพิ่มเติมที่ดีกว่ามาตรการขั้นต่ำดังกล่าวสำหรับลูกหนี้ในภาคธุรกิจ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม การบิน หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ website หรือโทรสอบถามได้ที่ call center ของแต่ละสถาบันการเงิน

ลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการนี้ จะยังคงมีประวัติการชำระหนี้เป็นลูกหนี้ปกติในฐานข้อมูลเครดิตบูโร แต่ลูกหนี้ยังคงมีภาระการจ่ายชำระคืนหนี้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกับผู้ให้บริการทางการเงิน

ภาพจากอีจัน

สำหรับลูกหนี้ที่ชำระหนี้ที่จะได้ตามปกติตามเงื่อนไขเดิม ผู้ให้บริการทางการเงินอาจให้สิทธิประโยชน์หรือเงื่อนไขพิเศษตามความเหมาะสม เพื่อสนับสนุนให้ลูกหนี้มีวินัยทางการเงินที่ดี

อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการทางการเงินจะต้องสื่อสารการให้ความช่วยเหลือขั้นต่ำตามมาตรการนี้ และโครงการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเฉพาะกลุ่มให้ลูกหนี้ทราบอย่างทั่วถึง รวมทั้งชี้แจงให้ลูกหนี้ทราบสิทธิประโยชน์ แนวทางปฏิบัติการขอรับความช่วยเหลือ และภาระหน้าที่ในการชำระหนี้ตามมาตรการการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ใหม่