แม่ป่วยจิต หอบลูกสาววัย 4 ขวบเร่ร่อน ทุบตี – บุหรี่จี้ลูก แผลทั่วร่าง

พลเมืองดี แจ้งมูลนิธิปวีณาฯ พบแม่มีอาการทางจิต หอบลูกสาว 4 ขวบเร่ร่อน อาละวาด ทุบตี-บุหรี่จี้ลูก จนแผลทั่วร่าง วอนช่วย เกรงทั้งคู่เป็นอันตราย

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 63 หน้าเพจเฟซบุ๊ก “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” โพสต์ว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบเห็นหญิงลักษณะคล้ายติดยาเสพติดจนมีอาการทางประสาท พาลูกสาว 4 ขวบ มาเร่ร่อนนอนอยู่บริเวณใต้ทางด่วนลาดพร้าว แขวง-เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ และทุบตีทำร้ายร่างกายลูก บางครั้งก็อาละวาด บางครั้งคุยคนเดียว จึงขอทางมูลนิธิปวีณาฯ ให้ความช่วยเหลือด้วย เนื่องจากเกรงว่า 2 แม่ลูกจะเป็นอันตราย

ภาพจากอีจัน
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบบริเวณใต้ทางด่วนลาดพร้าวทันที แต่ไม่พบตัว 2 แม่ลูก จึงได้แจ้งให้พลเมืองดีรับทราบ และขอความร่วมมือหากพบเห็น 2 แม่ลูกอีกให้ช่วยแจ้งกลับมาที่มูลนิธิปวีณาฯ ด้วย ต่อมา วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563 พลเมืองดีคนเดิม ได้แจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ ว่า พบเห็น 2 แม่ลูกมาเดินและนั่งอยู่บริเวณจุดเดิมอีกครั้ง นางปวีณา จึงได้ประสาน ผกก.สน.โชคชัย ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยเหลือ 2 แม่ลูกทันที
ภาพจากอีจัน
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงได้พบ 2 แม่ลูก สภาพเนื้อตัวมอมแมม เมื่อพยายามพูดคุยกับผู้เป็นแม่ก็พูดจาไม่รู้เรื่อง ก่อนจะช่วยเหลือพาแม่ลูกเดินทางไปที่ สน.โชคชัย ขณะเดียวกัน นางปวีณา ได้ประสาน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้เดินทางไปที่ สน.โชคชัย เพื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบให้การช่วยเหลือ โดยนางปวีณา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ภาพจากอีจัน
ผลการตรวจสอบ พอสรุปได้ว่า แม่เด็กอายุ 32 ปี และมีประวัติขึ้นทะเบียนคนพิการทางจิตไว้แล้ว ส่วนลูกสาวอายุ 4 ขวบ ตรวจสอบตามร่างกายพบรอยแผลถูกบุหรี่จี้ทั้งรอยเก่าและรอยใหม่ และรอยเขียวช้ำตามแขนและขา โดยเด็กบอกว่าแม่เป็นคนทำ ทุกวันต้องเร่ร่อนไปกับแม่ทุกที่ ไม่ได้เรียนหนังสือ
ภาพจากอีจัน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือส่งตัวผู้เป็นแม่ไปทำการเข้ารับการรักษาทางจิตเวช ส่วนเด็กหญิง 4 ขวบ เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคมได้ประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี รับตัวเด็กเข้าอยู่ในความคุ้มครอง ก่อนจะส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาและฟื้นฟูสภาพจิตใจ ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือต่อไป