เมื่อวาน (29 มีนาคม 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ได้ประสานงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงทีมควบคุมป้องกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเน้นย้ำให้ เจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ไล่ไทม์ไลน์จุดเสี่ยง หลังพบผู้ป่วยหญิง อายุ 63 ปี ชาวบ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่เดินทางกลับมาจากทำงานที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2563 และมีอาการป่วยยืนยันพบป่วยโควิด-19 เมื่อ 27 มีนาคม 2563 ซึ่งนอกจากจะมีการระดมเจ้าหน้าที่ควบคุมปิดกั้นหมู่บ้านเสี่ยงทั้ง 2 หมู่บ้าน ปิดการเข้าออกและกักตัวกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิด ยังได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบไทม์ไลน์ที่มีการเดินทาง ตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบินท่าอากาศยานนครพนม รวมถึงห้างค้าปลีกแม็คโครไปจนถึงโรงพยาบาลนครพนม โรงพยาบาลท่าอุเทน
ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ ยังได้เข้มงวดในการพ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่สำคัญจุดเสี่ยงของ จ.นครพนม อาทิ สถานีขนส่งผู้โดยสาร บขส.นครพนม ตลาดโต้รุ่ง และตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงประสานทุกอำเภอดำเนินการต่อเนื่องแบบวันต่อวันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง 
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ ในส่วนของห้างค้าปลีกแม็คโครนครพนมถือเป็นจุดสำคัญ หลังจากนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ได้ร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบควบคุมโรค ประสานนายสกลกฤษณ์ สุขะวัธนกุล ผู้จัดการเขต แม็คโครภาคอีสาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบภาพวงจรปิด ผู้ป่วยหญิง อายุ 63 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางมาจับจ่ายซื้อของ ภายในห้าง หลังกลับจาก กทม. เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 ช่วงเวลา 10.30 น. และออกจากห้างช่วงเวลา 11.30 น. รวมใช้เวลาเดินในห้าง ประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมได้ ตรวจสอบจุดที่เดินจับจ่ายซื้อของ และตรวจสอบคัดกรองพนักงานกลุ่มเสี่ยง จำนวน 13 ราย ซึ่งทางห้างได้มีการสั่งพนักงานหยุดงานชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน แต่ยังดูแลเรื่องสวัสดิการรายได้จนกว่าจะพ้นขีดอันตราย
ภาพจากอีจัน
ส่วนลูกค้าช่วงนี้มีจำนวนน้อยจึงไม่มีกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ยังได้ระดมทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์พ่นยาฆ่าเชื้อทุกจุด ยืนยันถึงความปลอดภัย และสามารถเปิดบริการปกติ แต่ขายเฉพาะพื้นที่อาหารที่จำเป็น
ด้าน นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า หลังมีการยืนยันตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจา กทม. ทางจังหวัดนครพนม พร้อมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อได้ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบควบคุมตามกระบวนการควบคุม ทั้งการปิดพื้นที่เข้า-ออกหมู่บ้าน การตรวจสอบคัดกรองกลุ่มเสี่ยงทุกรายเข้าสู่กระบวนการกักตัว ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้ตรวจสอบเส้นทางการเดินทางทุกจุด ตั้งแต่ลงเครื่องไปจนถึงบ้าน ชุมชนที่มีการเดินทางไปใกล้ชิด ทุกคนกลุ่มเสี่ยงจะต้องเข้าสู่กระบวนการ ทั้งหมด รวมถึง ผู้โดยสารที่เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกันตรวจสอบแล้ว มี 19 ราย เป็นคนในพื้นที่ 3 ราย นอกนั้น 16 ราย อยู่ต่างจังหวัด ได้ประสานงาน หน่วยงานเกี่ยวข้อง แจ้งเจ้าตัวเข้าสู่กระบวนการกักตัวแล้ว ที่สำคัญไม่เพียงจุดที่ผู้ป่วยเดินทางยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องในการระดมฉีดพ่นฆ่าเชื้อจุดเสี่ยง ทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร ตลาดสด ตลาดโต้รุ่ง สถานที่ท่องเที่ยว โรงพยาบาล ซึ่งได้มอบหมายให้ทุกอำเภอเพิ่มมาตรการเข้มในการควบคุม ไปจนถึงคัดกรองตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่วันต่อวัน อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีผู้ป่วยติดเชื้อ แต่ทางจังหวัดยังมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้ เพราะเรามีมาตรการควบคุมมาตลอด และขอให้ประชาชนในพื้นที่ ให้ความร่วมมือ และช่วยกันตรวจสอบดูแลรับผิดชอบต่อสังคม
ภาพจากอีจัน