จับแล้ว! นักโทษชายแหกคุกเรือนจำบุรีรัมย์รายสุดท้าย อิดโรย กบดานในป่าใกล้บ้านเกิด

ชุดสืบ สนธิกำลังค้นหานักโทษชายรายสุดท้าย แหกเรือนจำบุรีรัมย์ หนีไม่รอดเงื้อมมือตำรวจ รับสารภาพ มีขาใหญ่เรียกประชุมใหญ่ก่อนแหกคุก!

(31 มี.ค. 63) เวลาประมาณ 01.00 น. พ.ต.อ.อัษฎไนย ป้องกัน ผกก.สภ.คูเมือง , พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร รอง ผกก.ป.ฯหัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันติดตามไล่ล่าจับกุม นักโทษชาย ชื่อ ธัณยพงศ์ สินพูน อายุ 26 ปี ชาว ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่ร่วมกันก่อเหตุจลาจล เผาเรือนจำ และหลบหนีออกจากเรือนจำ เมื่อช่วงสายของวันที่ 29 มี.ค.63 ที่ผ่านมา

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง ช่วงสายของวันที่ 30 มี.ค.63 รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า พบบุคคลต้องสงสัยคล้ายกับ นักโทษชายธันยพงศ์ ที่ยังหลบหนีการจับกุม มาอยู่แถวบริเวณป่าใกล้กับลำคลองคูเมืองโบราณของหมู่บ้านโนนเมือง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักโทษชาย ธันยพงศ์ ชุดจับกุมจึงได้จัดกำลังปูพรมค้นหา กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าที่นักโทษชาย ขโมยจากหอพักใกล้กับเรือนจำ ชุดจับกุมจึงได้วางกำลังดักรอบหมู่บ้านโนนเมือง และหมู่บ้านใกล้เคียง รวมถึงจัดชุดเดินเท้าสำรวจตามหมู่บ้าน ป่า ทุ่งนา และไร่อ้อยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่ก็ยังไม่พบวี่แววนักโทษชาย

ต่อมา เวลาประมาณ 01.00 น. ชุดจับกุม รับแจ้งพบบุคคลต้องสงสัยคล้ายกับ นักโทษชาย ในสภาพไม่สวมเสื้อ ลายสักเต็มตัว นุ่งกางเกงขาสั้น ได้เดินเท้ามาอยู่ในละแวกบ้านผักกาดหญ้า ต.พรสำราญ อ.คูเมือง ติดถนนสายบุรีรัมย์-พุทไธสง ชุดจับกุมจึงได้ปูพรมค้นหาอย่างไม่ลดละ ท่ามกลางความมืด ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ก็เจอตัว นักโทษชายธันยพงศ์ แอบซุกซ่อนตัวอยู่ข้างพุ่มไม้ริมถนนสายบุรีรัมย์-พุทไธสง ในสภาพอิดโรย

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว ก่อนนำตัวมาทำการสอบสวน และควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังของ สภ.คูเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

นักโทษชายธันยพงศ์ รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนพร้อมกลุ่มนักโทษ ได้ทำการทุบกำแพง ตัดกรงเหล็ก ออกมาจากบริเวณช่องทางเยี่ยมญาติของเรือนจำบุรีรัมย์ แล้วพากันวิ่งหลบหนีข้างกำแพง วิ่งอ้อมไปทางด้านหลังเรือนจำ พอไปถึงโรงแรมหรือหอพักได้พากันเข้าไปขโมยเสื้อผ้า และรถจักรยานยนต์ขับหลบหนี โดยได้แยกย้ายกันหลบหนี ระหว่างนั้นตนวิ่งตกลงไปในบ่อระเบิดหิน และได้หลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืน จึงปีนขึ้นมาจากบ่อแล้วไปเอารถจักรยนต์ที่จอดทิ้งไว้บริเวณหอพักของน้องสาว ที่หมู่บ้านโคกเขา ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ที่ฝากไว้ก่อนถูกจับกุม ขับหลบหนีมุ่งหน้ามาที่หมู่บ้านโนนเมือง ซึ่งเป็นบ้านเกิด โดยได้ซุกซ่อนตัวอยู่ในป่า จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

“เหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ ตนทราบเพียงว่า ก่อนหน้าได้มีขาใหญ่ในเรือนจำ เรียกตัวพ่อบ้านของแต่ละบ้าน คือขาใหญ่ของนักโทษแต่ละอำเภอ ไปพูดพูดคุยกันว่าจะทำการแหกคุกในวันที่ 29 มี.ค.63 ระหว่างที่ตนกำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่ ได้เห็นเพื่อนนักโทษลุกฮือก่อเหตุจลาจล ตนจึงได้ไปร่วมกับเพื่อนนักโทษช่วยกันทุบทำลายกำแพงประตู ตัดกรงเหล็กแล้วทำการหลบหนีด้วย”