อีกครั้งกับเหตุสลด ฝากพี่เลี้ยง เลี้ยงลูกเล็ก สุดท้ายลูกเสียชีวิต!
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ จ.ลพบุรี นางอัญชลี ทองสมบัติ อายุ 39 ปี หรือแม่เจ แม่ของน้องเอ (นามสมมติ) ทารกเพศชาย วัย 4 เดือน เล่าว่า ตนต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนสามีต้องทำงานและดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง ไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง จึงจำเป็นต้องหาพี่เลี้ยงช่วยเลี้ยงลูกระหว่างที่ตนไปทำงาน ก็ได้มีการหาข้อมูลว่าใน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี มีที่ไหนรับเลี้ยงเด็กบ้าง ซึ่งบ้านของตนอยู่ที่ ต.ลํานารายณ์ อ.ชัยบาดาล จนไปพบว่าที่ ต.เกาะรัง อ.ชัยบาดาล มีอยู่คนหนึ่งรับเลี้ยงเด็ก ชื่อแพร อายุ 23 ปี
ตนจึงได้สอบถามและพูดคุยกันก่อนสักระยะหนึ่ง มีการไปดูบ้านที่จะเลี้ยง สภาพแวดล้อม ซึ่งก็ดูใช้ได้ เนื่องจากว่าตัวแพรเองก็มีลูกเล็กวัยใกล้เคียงกับลูกตัวเอง ตนจึงคุยกับสามีว่าตกลงจะฝากแพรเลี้ยงลูกชั่วคราวระหว่างไปทำงานที่สระบุรี โดยตกลงราคาฝากเลี้ยงกันที่ 6,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆของลูก เช่น ค่านม ค่าแพมเพิส ให้แพรสามารถขอเป็นครั้งๆได้ตามความจำเป็น วันที่ 3 มี.ค. 63 ตนจึงนำน้องเอ ไปฝากเลี้ยงไว้กับแพร ตามที่ตกลงกัน
ระหว่างนั้นแพรก็จะมีการถ่ายรูปน้องเอส่งมาให้ตนดูตลอด ขอเงินเป็นครั้งคราวเมื่อต้องซื้อนมให้น้องเอ ซึ่งทุกอย่างก็ดูปกติดี กระทั่งวันที่ 13 มี.ค. 63 แพรโทรมาแจ้งว่า น้องเอไม่สบาย มีอาการซึม ถ่ายเป็นสีดำ จึงจะขอเงินเพื่อพาน้องไปหาหมอ ตนก็ได้โอนให้และคอยสอบถามอาการลูกเรื่อยๆ วันต่อมาแพรก็แจ้งว่าน้องอาการดีขึ้นแล้ว ตนก็โล่งใจและคอยสอบถามถึงน้องอยู่ตลอด แพรก็บอกว่าน้องสบายดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ตนก็รู้สึกเป็นห่วงลูกมากจึงโทรหาสามีให้ช่วยเข้าไปดูลูกด้วย ว่าน้องเป็นยังไงสบายดีไหม
วันที่ 22 มี.ค. 63 สามีตนจึงได้ไปที่บ้านของแพรเพื่อไปเยี่ยมลูก ก็พบว่าน้องเอมีอาการซึม ซูบผอมลง นอนเหม่อลอย ไม่ร่าเริง และพบว่าแฟนหนุ่มของแพรมาช่วยเลี้ยงลูก ซึ่งแพรไม่ได้เลี้ยงน้องเอเอง ตนก็ได้สอบถามว่าทำไมแฟนแพรถึงได้มาช่วยเลี้ยง เพราะเขาก็มีงานประจำอยู่ แพรจึงบอกว่าแฟนเธอตกงาน ก็เลยให้มาช่วยกันเลี้ยง เนื่องจากต้องเลี้ยงทั้งลูกของแพรเองวัย 5 เดือน และเลี้ยงน้องเอด้วยอีกคนหนึ่ง แต่ด้วยความที่ตนก็ยังต้องทำงานที่สระบุรี จึงจำเป็นยังต้องฝากลูกไว้อยู่ เมื่อสามีกลับออกมาจึงมีการคุยกันว่า น้องมีอาการแปลกๆ ผอมลงเยอะ จากกำหนดเลี้ยง 1 เดือน จะต้องมารับตัวน้องวันที่ 4 เม.ย. 63 เราคิดว่าจะไปรับลูกเร็วขึ้นดีกว่า
ภาพจากอีจัน
วันที่ 26 มี.ค. 63 ตนจึงได้เดินทางกลับมาที่บ้านสามี ใน ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล เพื่อจะไปรับน้องเอก่อนกำหนดฝากเลี้ยง แต่ยังไม่ได้บอกกับแพรว่าตนมาถึงลพบุรีแล้ว เนื่องจากตอนนั้นเริ่มสงสัยแล้วว่าลูกมีอาการแปลกๆ และแพรก็เริ่มขอค่าใช้จ่ายเงินถี่ขึ้น ระหว่างนั้นตนก็ได้เจอกับญาติของสามีที่จะรับเลี้ยงน้องเอให้ต่อ จึงมีการพูดคุยกันอยู่ เวลา 16.00 น. แพรก็โทรมาแจ้งว่าน้องเอไม่หายใจ กำลังพาตัวน้องมาที่โรงพยาบาลอนามัย ต.เกาะรัง และได้แจ้ง 1669 รพ.ชัยบาดาล ให้มารับแล้ว ตอนนั้นตนตกใจมาก และถามว่าทำไมน้องถึงไม่หายใจ เกิดอะไรขึ้น แพรก็บอกว่าเกิดจากการป้อนข้าว น้องน่าจะสำลักข้าว โดยแฟนเป็นคนป้อนและพบว่าน้องแน่นิ่งไป จึงรีบพามาที่อนามัยตำบล ตนก็พยายามถามว่าจะรีบไปหาที่นั่น แต่แพรก็บ่ายเบี่ยง บอกว่าไม่ต้องมาให้ไปรอเจอกันที่ รพ.ชัยบาดาลเลย เมื่อมาถึง รพ.ชัยบาดาล คุณหมอก็แจ้งว่าน้องเอขาดอากาศหายใจมาแล้วกว่า 10 นาที ต้องทำการสอดท่อช่วยหายใจ ตนก็บอกหมอว่าให้ทำได้เลย ทำให้น้องยังมีชีวิตอยู่ ระหว่างนั้นก็ได้มาถามแพรกับแฟนว่า เกิดอะไรขึ้น ทางแพรและแฟนก็ยังบอกเหมือนเดิมว่าเกิดจากการป้อนข้าว และพูดจาวกไปวนมา ตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อแน่นอน จึงได้แจ้งกับหมอไปหาสงสัยในสาเหตุการตายของลูก อยากจะชันสูตร จึงได้มีการส่งศพน้องเอมาชันสูตรที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
วันที่ 27 มี.ค. 63 ตนได้รับผลชันสูตรสรุปการตายเบื้องต้น ว่า น้องเอเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ กะโหลกศีรษะยุบจากการถูกของแข็งกระแทกอย่างแรง ตนและสามีจึงรีบไปแจ้งความทันที ที่ สภ.ชัยบาดาล ตำรวจจึงได้เรียกแพรและแฟนมาสอบปากคำ ซึ่งแฟนแพรเป็นคนเลี้ยงน้องเอ ก็ได้ให้ปากคำกับตำรวจเหมือนที่บอกกับตนว่าน้องสำลักข้าว แต่ตำรวจก็พยายามสอบถาม และบอกว่าน้องเอมีร่องรอยของกะโหลกศีรษะยุบ
จนกระทั่ง แฟนของแพรก็ได้ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 63 ได้ให้น้องเอนอนในเปล เเล้วทำน้องตกเปล ตอนนั้นอาจจะทำให้เป็นรอยกะโหลกศีรษะยุบก็ได้ และยังยืนยันว่าที่น้องเสียชีวิต ตัวเองไม่ได้ทำแต่เพราะเกิดจากการป้อนข้าวแล้วน้องสำลักข้าว และความจริงอีกหนึ่งอย่างก็เปิดเผย เมื่อตรวจสอบประวัติแพร พบว่าอายุที่แท้จริงของแพรคือ 14 ปี ไม่ใช่ 23 ปี อย่างที่บอกทั้งนี้ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากยังต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียด และต้องสอบปากคำเพิ่มเติมหลายปาก แต่ก็ได้รับปากกับแม่เจว่า จะเร่งดำเนินคดีให้ โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
เบื้องต้นวันนี้ (1 เม.ย. 63) ตำรวจได้นำตัวแพรและแฟนไปชี้จุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เนื่องจากแพรยังเป็นเยาวชน และจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพจากอีจัน
สุดท้ายแม่เจ ฝากบอกกับครอบครัวอื่นๆที่ไม่มีเวลาดูแลลูกเองและจำเป็นต้องฝากเลี้ยงว่า ให้ตรวจสอบ ดูพี่เลี้ยงให้ดี ทั้งบุคลิกนิสัยของพี่เลี้ยงเองและคนรอบข้าง เช็คทุกอย่างให้ละเอียดว่าเขาเป็นคนจิตใจเหมาะจะเลี้ยงเด็กเล็กหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแบบตน