2 ชาวลาว ลักลอบขนกัญชาข้ามแม่น้ำโขง

ตำรวจกองปราบปราม รวบ 2 ชาวลาว รับจ้างขนกัญชาข้ามแม่น้ำโขงส่งเครือข่ายยาเสพติดชาวไทย

กองบังคับการปราบปราม นำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดำเนินการสืบสวนจับกุม พ.ต.ต.พิเชต ชมมณฑา สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.โกญจนารถ ชาวยามกา, ร.ต.อ.ปริญญกรณ์ พยัคฆ์ทอง รอง สว.กก.3 บก.ป., ด.ต.สนทยา บัวถนอม, ด.ต.ไชยันต์ เกิดศักดิ์ ณ แวงน้อย, ด.ต.ชัชชัย ช่างสอน และ ด.ต.จักรพงษ์ พลหาญ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป.

ได้ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ ท้าวแก้ว (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ชาวลาว , ท้าวบาน (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ชาวลาว ในฐานความผิด ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีนำยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าว (ลาว-ลาว) เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
สืบเนื่องมาจาก กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ หลังจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มเครือข่ายผู้ลักลอบค้ายาเสพติดชาวลาว ลักลอบลำเลียงกัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักประมาณ 100-300 กิโลกรัม เข้ามาส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายผู้ลักลอบค้ายาเสพติดคนไทย (ไม่ทราบชื่อ) ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านทิศเหนือ พื้นที่บ้านดงโทน ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

ต่อมาวันที่ 30 มี.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 2106, เจ้าหน้าที่หมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 3 กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหล่าหลวง และ เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.244 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบกลุ่มผู้ต้องหา ขับเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ มาจากทางฝั่งประเทศลาว มาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขงของไทย จากนั้นได้แบกกระสอบสีดำเดินขึ้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัว และขอทำการตรวจค้น แต่ผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีไป พร้อมกับทิ้งกระสอบสีดำไว้บริเวณที่เกิดเหตุ

ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 2 คน ได้ที่บริเวณถนนการเกษตรทางลงท่าแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านหนองฮู หมู่ที่ 8 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ต่อเนื่องบริเวณถนนทางแยกเข้าวัดป่าฐานบุรี พื้นที่บ้านเทพมงคล ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ จากการตรวจสอบพบว่าภายในถุงพลาสติกสีดำเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักประมาณก้อนละ 1 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 3 กระสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่ากัญชาของกลางดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยก่อนเกิดเหตุ ท้าวแก้ว ผู้ต้องหาที่ 1 ได้รับการติดต่อจาก ท้าวท้าว ชาวลาว ว่าจ้างให้ตนลักลอบลำเลียงกัญชาของกลางดังกล่าว ไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดคนไทย (ไม่ทราบชื่อ) โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ 4,000 บาท ท้าวแก้ว จึงได้ติดต่อและชักชวน ท้าวบาน ให้มาร่วมลักลอบลำเลียงกัญชาดังกล่าว

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน