อีสานอ่วม! พายุฤดูร้อนพัดถล่ม บ้านพังเสียหายกว่า 100 หลัง

ช่วงนี้โปรดระมัดระวังพายุฤดูร้อน หลังจากที่เมื่อวานนี้ (2 เมษายน 2563) หลายจังหวัดในภาคอีสาน ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม จนบ้านเรือนพังเสียหาย

เริ่มกันที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (2 เมษายน 2563) เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม 5 หมู่บ้านในอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน

• กรมอุตุฯ เตือน 40 กว่าจังหวัด ระวังพายุฤดูร้อน ถล่มหนัก!
  

นายวิชิต วาพันสุ อายุ 61 ปี ชาวบ้านสำราญ อำเภออาจสามารถ หนึ่งในบ้านที่ได้รับความเสียหายจากพายุ เล่าว่า ช่วงตอน 5 โมงเย็น ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างแรง ประกอบกับพายุหมุนขนาดใหญ่ซัดเข้าบ้านของตน จนเริ่มบ้านสั่นและมีเสียงดัง ด้วยความกลัวบ้านจะพังลงมาทับ จึงวิ่งไปหลบอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน กระทั่งลมสงบ จึงออกมาตรวจดูภายในบ้านพบว่า แรงลมพัดหลังคาสังกะสีปลิวหายไปทั้งแถบ ตกห่างจากบ้านของตนกว่า 100 เมตร ประเมินค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 200,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีเสาไฟฟ้าริมถนนสายร้อยเอ็ด-อาจสามารถ ช่วงบ้านสำราญ ตำบลอาจสามารถ อำเภออาจสามารถ ถูกพายุฤดูร้อนซัดจนหักโค่นล้มลง จำนวน 11 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าขัดข้องใน 5 หมู่บ้าน พื้นที่ตำบลอาจสามารถ เป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงทำการซ่อมแซมและปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ

และยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบจากแรงลมพายุในครั้งนี้ด้วย

ส่วนที่ จ.สุรินทร์ พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน ชาวบ้านไร้ที่อยู่

เมื่อช่วง 5 โมงเย็น ของเมื่อวานนี้ (2 เมษายน 2563) พายุฤดูร้อนได้พัดถล่มหมู่บ้านหนองคู และบ้านโพธิ์พัฒนา หมู่ที่ 2 ต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชยถูกกระแสลมพัดได้รับความเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน รวมทั้งต้นไม้ได้หักโค่นจำนวนมาก

จากการสำรวจพบว่า บ้านเรือนที่พายุพัดได้รับความเสียหายหนักที่สุดได้แก่บ้านของนายบุญมา กำแพง อายุ 67 ปี และนายสังวาล ภูหอม

สอบถาม นายบุญมา เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.35 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน ได้เกิดลมพายุพัดมาอย่างแรง ตนได้วิ่งไปหลบพายุอยู่ในบ้าน พายุได้พัดหอบเอาหลังคาบ้านลอยไปไกลกว่า 50 เมตร หลังฝนหยุดได้สำรวจทรัพย์สินบ้านตนเอง นอกจากหลังคาปลิวหายไปแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้ายังเสียหาย ตนจึงอยากให้ทางส่วนราชการเข้ามาให้การช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบเป็นการด่วน เกรงว่าฝนจะตกลงมาซ้ำอีก

นอกจากนี้ ชาวบ้านหนองคูและบ้านโพธิ์พัฒนา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากลัวมากทั้งพายุทั้งฝน พายุพัดไม่ถึง 20 นาทีบ้านเรือนเสียหายไปกว่า 10 หลังคาเรือน

ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว

ขณะที่ จ.มุกดาหาร พายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนชาวบ้านบ้านนาโพธิ์ 10 หลังคาเรือน ยุ้งข้าว ฟาร์มหมู พื้นที่การเกษตรเสียหาย และต้นไม้ใหญ่หักโค่น

เบื้องต้นทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ออกสำรวจความเสีย และให้ความช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้พบว่าได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนถล่มรวมทั้งสิ้น 10 หลัง ยุ้งข้าว 3 หลัง ฟาร์มหมู 2 โรง และได้แจ้งไปที่ อบต.โพธิ์ไทร เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป

สอบถามนายทำเนียบ พรมเสนา อายุ 52 ปี เล่าว่า ขณะเกิดฝนตก มีลมหมุน และมีลูกเห็บ ตนอยู่ในบ้านพร้อมครอบครัว และเตรียมเฝ้าระวังหาทางหนี

ส่วนนายสำเนียง พุทธขัน เล่าว่า ฝนได้ตกลงมาก่อน พอฝนผ่านไปแล้ว ลมหมุนมาทีหลัง ข้ามมาจากทางหมู่บ้านนาโพธิ์ ทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้มหักโค่น และทางฝั่งริมโขงได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านตนเองลมได้พัดหลังคาบ้าน และหลังคายุ้งข้าวเสียหาย ซึ่งทาง อบต.โพธิ์ไทร ได้ออกมาสำรวจแล้ว