ศาลลำปางสั่งขัง 15 วัน คนฝ่าฝืนคำสั่งกักตัว

ลำปางเอาจริง! สั่งขัง 15 วัน คนฝ่าฝืนการกักตัว หลังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ซ้ำพาเพื่อมามั่วสุมในบ้าน จังหวัดลำปางดำเนินคดีกรณีพบผู้ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่จำนวน 1 ราย

ผู้ฝ่าฝืนกฎก็ต้องได้รับโทษ

วานนี้ 3 เมษายน 2563 ศาลแขวงลำปาง ได้มีคำพิพากษากรณีพบผู้ที่อยู่ในกลุ่มเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ในเขตพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง จำนวน 1 ราย ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ร่วมเดินทางมากับบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทางเจ้าพนักงานในพื้นที่จึงสั่งให้แยกกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม พ. ศ. 2563 ถึงวันที่ 11 เมษายน 2563 โดยบุคคลรายนี้ได้รับทราบตามคำสั่งแล้ว

ภาพจากอีจัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ. ศ. 2563 บุคคลดังกล่าวได้เดินทางออกจากบ้านพักไปพบปะบุคคลอื่นภายในหมู่บ้าน พร้อมทั้งชักชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุมที่บ้านพักที่เกิดเหตุ อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งตามหนังสือของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ให้แยกกัก กักกันหรือควบคุมไว้สังเกต โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จึงได้เข้าแจ้งพนักงานสอบสวนและภายหลังได้ให้การรับสารภาพ ทางศาลฯจึงเห็นสมควรว่า มีความผิดฐานพระราชบัญญัติโรคติดต่อตามกฎหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34,51 ประมวลกฎหมายอาญา 29,30 ให้กักขัง 15 วัน แทนค่าปรับ 7,500 บาท ณ สถานที่กักขังกลางจังหวัดลำปาง ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป


สำหรับการดำเนินการดูแลผู้กักขังกรณีดังกล่าวนั้น ทางสถานกักขังกลางจังหวัดลำปางได้ปฏิบัติตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด ซึ่งกำหนดให้ผู้กักขังเข้าใหม่ต้องได้รับการตรวจคัดกรองจากทางโรงพยาบาลพร้อมกับแยกไปควบคุมไว้ที่ห้องแยกโรคเป็นเวลา 14 วัน โดยผู้กักขังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาและงดเยี่ยมญาติผู้ต้องกักขังในช่วงระหว่างสังเกตอาการเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคตามมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัส COVID – 19

ทั้งนี้ ทางจังหวัดลำปาง จึงขอความร่วมมือประชาชนได้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆของทางจังหวัดตลอดจนคำแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัส COVID – 19 หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายต่อไป