กรมป่าไม้ ยันเอาผิดคนเผาป่า หลังจิตอาสาช่วยดับไฟป่าเสียชีวิต 4 ราย

กรมป่าไม้ ลั่นคนเผาป่าต้องถูกดำเนินคดีถึงที่สุด หลังจิตอาสาเสียชีวิต 4 ราย จากการช่วยดับไฟป่า

4 เม.ย. 63 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันไฟป่า ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์

ภาพจากอีจัน
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ดอยจระเข้ อำเภอแม่จัน จ.เชียงราย กรมป่าไม้ ตรวจสอบพบจุดความร้อน จำนวน 171 จุด จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้เร่งดำเนินการในควบคุมสถานการณ์ โดยการรวบรวมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 80 นาย ซึ่งเป็นชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการดับไฟป่าจากหน่วยต่าง ๆ ของทางภาคเหนือ และยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา เข้าระงับเหตุในพื้นที่
ภาพจากอีจัน
สำหรับการปฏิบัติการในการเข้าควบคุมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ดอยจระเข้ครั้งนี้ต้องใช้ปฏิบัติการทางอากาศ ด้วยลักษณะของพื้นที่เป็นพื้นที่เขามีความลาดชัน การเข้าควบคุมสถานการณ์โดยการเดินเท้าเข้าพื้นที่จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงต้องใช้ชุดปฏิบัติการเฮลิคอปเตอร์ในการทิ้งน้ำลงบนพื้นที่เกิดเหตุกว่า 40 เที่ยว จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในวงจำกัด และมีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเข้าไปในพื้นที่เพื่อทำแนวกันไฟในการป้องกันไม่ให้ไฟป่าขยายวงกว้างขึ้น และจัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังในบริเวณสถานที่ดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก นอกจากนี้ นายอรรถพล ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และหากได้ตัวผู้กระทำผิดให้เร่งส่งฟ้อง พร้อมดำเนินคดีทันที ด้าน นางนันทนา บุณยานันต์ โฆษกกรมป่าไม้ กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเกิดไฟป่า ว่า นอกจากจะส่งผลกับพื้นที่ป่าไม้แล้ว ยังส่งผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม และยังเกิดความสูญเสียถึงชีวิตกับประชาชนจิตอาสาที่เข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่าในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ ต้องขอยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับความเสียสละในการเป็นจิตอาสาเข้าร่วมดับไฟป่าของประชาชนทั้ง 4 ราย ได้แก่
ภาพจากอีจัน
1.พลทหารปิยพันธ์ แสนสุข เป็นอาสาสมัครในการดับไฟป่า สังกัดกองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 17 ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช ที่ประสบอุบัติเหตุตัวเกี่ยวติดกับลวดหนามของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ป้องกันฐานในขณะที่เข้าทำการดับไฟป่า ส่งผลให้ไฟป่าลุกลามคลอกจนเสียชีวิต ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปายฝั่งขวา อ. ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 2.นายนิพนธ์ จาระธรรม (พ่อหลวงแดง) ผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่แฝกใหม่ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากไฟคลอกในที่เกิดเหตุและภายหลังได้เสียชีวิต ขณะเข้าดับไฟในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 3.นางต๊ะนี กิจเจริญพัฒน์ ที่เสียชีวิตในขณะเข้าไปสบทบช่วยเจ้าหน้าที่ในการดับไฟ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง บริเวณหย่อมบ้านขยัน จนถูกไฟคลอกเสียชีวิต 4.นายเงิน นาหยิ ประชาชนจิตอาสา ที่เข้าไปร่วมดับไฟพร้อมชุดเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ซึ่งเกิดลมกรรโชกแรงลมเปลี่ยนทิศทาง ทำให้เสียชีวิตในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำแม่คำ-ป่าน้ำแม่สลองและป่าน้ำแม่จันฝั่งซ้าย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โฆษกกรมป่าไม้ ทิ้งท้ายด้วยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาหลายด้านที่ต้องดำเนินการรับมือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานการณ์ปัญหาภัยแล้ง จึงขอความร่วมมือให้ผู้ที่เข้าไปเก็บหาของป่าหยุดก่อเหตุในการจุดไฟเผาป่า หรือเพื่อหวังผลในการยึดถือครอบครองพื้นที่เพื่อทำการเกษตร
ภาพจากอีจัน
เพราะเพียงแค่ 1 คนเผา หน่วยงานภาครัฐต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกับประชาชนจิตอาสา เข้าระงับเหตุจำนวนมากมาย ในการเข้าควบคุมสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พื้นที่ป่าเกิดความเสียหายหลายร้อยหลายพันไร่ เสียงบประมาณมากมาย บางครั้งบาดเจ็บ บางครั้งสูญเสียชีวิต จึงขอประณามผู้ที่ก่อเหตุ หากตรวจพบการกระทำผิด กรมป่าไม้จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด