โฆษก ตร. สรุปการปฏิบัติ “เคอร์ฟิว” คืนวันที่สอง

โฆษก ตร. สรุปการปฏิบัติ “เคอร์ฟิว” คืนวันที่สองเรียบร้อยดี ยังมีบุคคลจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ต้องโดนโทษตามกฎหมาย วอนประชาชนให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้วย

วันนี้ (5 เม.ย. 63) ภายหลังการประชุม ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์หลังจากมีการประกาศข้อกำหนดเพิ่มเติม ห้ามออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น หรือ CURFEW (เคอร์ฟิว) นั้น

ภาพรวมการปฏิบัติในคืนวันที่ 4 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 5 เมษายน 2563 ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และอาสาสมัครต่างๆ มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดสายตรวจร่วม ทั่วประเทศ รวมจำนวน 836 จุด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 18,893 คน มีการตรวจค้นบุคคลทั้งหมด 19,312 คน ตรวจค้นยานพาหนะทั้งหมด 14,344 คัน ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็น คือ เป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการขนส่งสินค้าอุปโภค/บริโภค ขนส่งสินค้าทางการเกษตร การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการแพทย์ ตามลำดับ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

พลตำรวจโท ปิยะ กล่าวต่อว่า โดยปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอะลุ่มอล่วยเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว แต่ยังคงมีประชาชนบางส่วนที่จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น ดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ออกมาตามท้องถนนโดยไม่มีจุดหมาย รวมตัวจับกลุ่มตั้งวงสุราหรือสรวลเสเฮฮาในที่สาธารณะ ลักลอบเล่นการพนัน หรือ ออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ เช่น อ้างว่าไปเยี่ยมเพื่อน หรืออ้างว่าไม่รู้ว่ามีเคอร์ฟิว โดยกลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดีทั้งหมด 308 ราย มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ได้โปรดปฏิบัติตามข้อกำหนด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุม ป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็ว

ภาพจากอีจัน