โฆษก สตม.เผย ทุกคนที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 14 ขอทุกคนให้ความร่วมมือ

ทุกคนที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตั้งกักตัว 14 วัน ตามประกาศของรัฐบาล แจงเป็นแค่พักดูอาการไม่ได้เป็นการคุมขัง ขอทุกคนให้ความร่วมมือ

จากกรณีเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไม่ยอมไปกักตัวในที่ที่รัฐบาลจัดไว้ให้ เพราะหลายคนไม่เข้าใจและไม่พอใจในขั้นตอน จนมีเฟซบุ๊กรายหนึ่งขึ้นโพสต์ด่าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

ภาพจากอีจัน
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม.เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า สำหรับกรณีการโพสต์ดังกล่าว ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม รับทราบแล้ว ได้ฝากถึงสังคมได้โปรดเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ควบคุมโรค การท่า หมอ ทหาร ตำรวจ ขนส่งหรือ ตม.ที่กำลังทำหน้าที่ที่สนามบิน ทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อสกัดกั้นการติดเชื้อให้ดีที่สุด ทุกคนมีความเสี่ยง กลับบ้านต้องแยกกิน แยกอยู่กับคนในครอบครัวทุกวัน ถึงแม้จะถูกก่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ดูถูก ซึ่งอาจจะทำลายขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน แต่เชื่อว่า จนท.ทุกคนก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทต่อไป ส่วนการดำเนินคดี จะมีการพิจารณาโดยฝ่ายกฏหมายต่อไป
ภาพจากอีจัน
ทางรัฐบาล ได้ประกาศใช้ข้อกำหนดตาม พรบ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งได้ยกระดับให้ คนไทย และ คนต่างชาติ ต้องถูกเชิญไปพักดูอาการแบบ State Quarantine ยังสถานที่ที่ทางราชการกำหนด เป็นเวลา 14 วัน แม้จะผ่านการรับรองจากสถานทูต และมีใบรับรองสุขภาพ หรือ Fit to Fly มาจากประเทศต้นทาง และ ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรคมาแล้วก็ตาม เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า การติดเชื้อจากคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมีจำนวนตัวเลขสูง โดยเฉพาะในรายที่พยายามใช้ยาลดไข้เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจอุณหภูมิ หรือ อยู่ในภาวะพาหะนำเชื้อโดยไม่มีอาการ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ซึ่งที่ผ่านมาอาจมีข้อติดขัดจากการสื่อสาร จึงได้มีการแก้ไขปัญหา โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพี่น้องคนไทย 158 ท่าน ในการกลับมารายงานตัว ครบทุกท่านเป็นอย่างดี รวมถึงพี่น้องลูกหลานคนไทยในเที่ยวบินอื่นๆที่ให้ความร่วมมือด้วยดีเช่นกัน

โดยขณะนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน หรือ EOC ได้ปรับระบบการทำงานเพื่อรองรับพี่น้องประชาชนคนไทย ให้ได้รับการคัดกรองที่ชัดเจนและสะดวกยิ่งขึ้น โดยทุกคนที่เดินทาง จะต้องลงนามรับทราบว่าตนยินดีที่จะเข้าทำ State Quarantine ทันทีเมื่อถึงไทยทุกราย ซึ่งที่ผ่านมา ได้ปรับการบริหารจัดการ ตั้งแต่ลงเครื่อง ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรค ผ่านระบบคัดกรองเอกสารลงข้อมูลที่ Health Control ผ่าน ตม. และ ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ จนท.รปภ.การท่าฯ จนท.ทหาร และ จนท.ขนส่ง จะรับตัวไปพักยังสถานที่ที่ทางราชการจัด ซึ่งจะมีการดูแลทางการแพทย์ และ สวัสดิการ ต่างๆ จนครบกำหนด โดยการพักดูอาการดังกล่าว ไม่ใช่การคุมขัง สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร เล่นเน็ตต่างๆได้ตามปกติ

จึงวิงวอนให้ พี่น้องประชาชน ทั้งที่เดินทางมาไทย และญาติพี่น้องผู้ปกครองได้โปรดเข้าใจ บางทีอาจไม่ได้รับความสะดวกในเท่าที่ควร แต่การที่รัฐบาลใช้มาตรการดังกล่าว ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เดินทาง และญาติพี่น้องครอบครัวที่บ้านของท่านทุกคน