วันนี้ (13 เม.ย. 63) ในช่วงที่ประเทศกำลังต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ให้หมดไปจากประเทศ ด้วยการรักษา ป้องกัน และตรวจ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่จะสามารถกำจัดไวรัสตัวนี้ได้ แต่สิ่งที่น่ากังวลใจคือ การปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเสี่ยงจนทำให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ขณะนี้กว่า 20,000 คน
โดยผลจากการปกปิดข้อมูลไม่ได้ส่งผลเสียให้กับทีมแพทย์และพยาบาลเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบหลายๆ ด้าน เช่น การปกปิดข้อมูลส่งผลให้ไม่ได้รับการตรวจหรือรักษาตามมาตรการและกระบวนการที่ถูกต้อง และ ส่งผลให้ทีมแพทย์พยาบาลเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย หากแพทย์ติดเชื้อสิ่งที่จะส่งผลคือ บุคลากรแพทย์จะลดลงเพราะต้องทำการรักษาตัวเองไม่สามารถมารักษาผู้ป่วยได้ โดยตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้ออยู่แล้วก็อาจจะได้รับการรักษาแบบไม่ทั่วถึงเพราะแพทย์ที่ทำการรักษามีจำนวนลดน้อยลง เหตุเพราะติดเชื้อจากคนไข้ที่ปกปิดข้อมูล ซึ่งองค์การอนามัยโลกเอง ออกมาเปิดเผยว่า “ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้อไวรัสแล้ว 22,073 ราย และคาดว่ายังเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากยังไม่มีรายงานจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อต่อองค์การอนามัยโลกอย่างเป็นระบบ ผลลัพธ์เบื้องต้นชี้ว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ติดเชื้อจากที่ทำงาน และที่อื่น ๆ ”
- นายกฯ อังกฤษ ออกจาก รพ.แล้ว หลังป่วยโควิดร่วมเดือน
- สธ. เผย 60% บุคลากรแพทย์ ติดโควิด เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย
- ศบค.เเถลง ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 28 ราย ตายเพิ่ม 2 ราย บุคลากรการแพทย์ 3 ราย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย ได้ออกมาประกาศเตือนอยู่บ่อยครั้ง เกี่ยวกับการให้ข้อมูลของคนไข้ให้บอกข้อมูลกับแพทย์ด้วยความจริง เช่น ประวัติการเดินทาง ประวัติการทำงาน ประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยหรือพฤติกรรมเสี่ยงหรืออาจทำให้ติดเชื้อ โดยจะต้องบอกข้อมูลเหล่านี้กับแพทย์อย่างครบถ้วนและถูกต้อง
ทั้งนี้ หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เสียหาย และให้ข้อมูลเท็จต้องระวางโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จันขอความร่วมมือกับพี่น้องทุกๆ ท่านนะคะ หากมีการสอบถามให้บอกข้อมูลตามความจริงเพื่อไม่ให้แพทย์ พยาบาล และคนรอบตัวเดือดร้อน ช่วยกันแล้วสักวันมันจะกลับมาดีดังเดิมค่ะ