17 เมษายน 2563 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยโสธรผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดยโสธร ได้ลงนามใน ประกาศจังหวัดยโสธร เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
- วอนผู้ป่วยอย่าปกปิดข้อมูล ชี้บุคลากรทางการแพทย์ ติดโควิดแล้ว 99 คน
- ขรก. ระดับสูงมหาดไทย สละเงินเดือน 50% ตั้งกองทุนสู้ภัยโควิด-19
- ผอ.รพ.จุฬาภรณ์ เสนอ ให้ปิดเมืองต่อจนกว่าจะไม่พบผู้ติดเชื้อ
2.ให้ปรับระยะเวลาปิดบริการร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งร้านขายของเบ็ดเตล็ดในชุมชนทุกแห่ง ที่ขายสินค้าและเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยกำหนดให้ปิดบริการตั้งแต่ 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563
3.ให้ผู้เข้ารับการตรวจหรือรักษา แจ้งข้อมูลที่จำเป็น และประวัติส่วนบุคคล แก่บุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อประโยชน์ในการป้องกันควบคุมและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เช่น ประวัติการเดินทาง ประวัติการทำงาน ประวัติการสัมผัสผู้ป่วย รวมทั้งพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้ติดเชื้อโรคให้ครบถ้วน และถูกต้องตามความเป็นจริง ตามที่ทางราชการกำหนด ผู้ใดแจ้งข้อความดังกล่าวข้างต้นเป็นเท็จ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
4.ให้งดจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ปี พ.ศ. 2563 ในพื้นที่จังหวัดยโสธรทุกระดับ โดยหมายความรวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟทั้งหมด
ทั้งนี้ บรรดามาตรการอื่นตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยโสธร ที่ได้ออกประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดลงก่อนวันที่ 30 เมษายน 2563 ให้มีผลบังคับใช้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ทุกมาตรการ โดยให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ในพื้นที่เฉพาะในเขตท้องที่อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ ชี้แจง ควบคุม กำกับ ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องถือปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ การดำเนินการตามประกาศนี้ เป็นกรณีที่มีสถานการณ์อันกระทบ หรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนอันมีมาอย่างฉุกเฉิน และร้ายแรงจึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ทั้งนี้ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ยกเว้นความผิดตามข้อ 3 ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้