คุมเข้ม กรมราชทัณฑ์ สั่ง แยกขังผู้ต้องกักขังเข้าใหม่ 27 ราย เพื่อเฝ้าระวังอาการ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอาการ จึงสั่งแยกขังผู้ต้องกักขังเข้าใหม่ทั้ง 27 ราย ขณะที่ไม่มีรายงานผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม

วันนี้ (17 เม.ย. 63) พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดูของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำว่า

1. เรือนจำจังหวัดกระบี่ พบผู้ต้องขังหญิง 1 ราย มีอาการไอ มีเสมหะ และมีอาการแน่น
หน้าอกร่วมด้วย เบื้องต้นทางเรือนจำได้ส่งตัวผู้ต้องขังรายดังกล่าว เข้ารับการตรวจโรคเชื้อไวรัส
โควิด-19 แล้ว ซึ่งได้ผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อโควิด-19)

2. เรือนจำอำอพล พบผู้ต้องขังชาย 1 ราย ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบ เบื้องตันทาง
เรือนจำได้ส่งตัวผู้ต้องขังรายดังกล่าว เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น และส่งตรวจเชื้อโควิด-19 แล้ว ซึ่งได้ผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อโควิด-19)

3. กรณีตามที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี แจ้งว่า ได้รับตัวผู้ต้องกักขังเข้าใหม่
ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 และพ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ศ. 2558 จำนวนทั้งสิ้น 27 ราย ทั้งนี้ ได้ดำเนินการแยกขังเพื่อติดตามและเฝ้าระวังอาการตามมาตรการที่กำหนด

ภาพจากอีจัน
โดยสรุปสถานการณ์ในวันนี้ ไม่มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 (มีติดเชื้อรายเก่า 2 ราย ซึ่งปัจจุบัน หายแล้ว) และมีเจ้าหน้าที่ 1 ราย (อยู่ระหว่างการรักษาตัว) ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์จะได้ติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยของผู้ต้องขังในทุกเรือนจำอย่างใกล้ชิดทุกวัน เพื่อจำกัดจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะเสี่ยงและติดโรคระบาดนี้ให้น้อยที่สุด โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรค รวมทั้งสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลแม่ข่ายต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน