การไฟฟ้าคำนวณให้ดูชัดๆ ทำไมค่าไฟเดือนนี้ถึงเเพง

การไฟฟ้าไขข้อข้องใจ? ทำไมค่าไฟเดือนนี้พุ่งเเรงกว่าปกติด คำนวนให้ดูชัดๆ โต้ไม่เกี่ยวคืนเงินประกันเเล้วจะเก็บค่าไฟเเพง

กลายเป็นกระเเสของวันจริงๆ หลังจากวันนี้หลายบ้านได้รับบิลค่าไฟประจำเดือนนี้ไปเเล้ว เเต่ที่ทำเอาตกใจไม่น้อยคือค่าไฟเดือนนี้สูงลิ่ว ซึ่งหลายคนก็ทำใจไว้เเล้วเพราะอยู่บ้านทำกิจกกรมที่บ้าน ค่าไฟก็สูงธรรมดา เเต่ก็มีหลายบ้านที่ใจหายวาบ ใช้ไฟปกติเเต่ทำไมค่าไฟกระโดดจนน่าตกใจ

ล่าสุดวานนี้เพจเฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกมาโพสต์ไขข้อข้องใจว่าทำไมค่าไฟเดือนนี้ถึงเเพง พร้อมคำนวนให้ดูชัดๆ

ภาพจากอีจัน
โดยโพสต์ระบุว่า ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? มาดูคำตอบแบบเปิดใจกันหน่อย 1. การไฟฟ้า คิดเงินแบบอัตราก้าวหน้ามาตลอด ใช้เยอะจ่ายเยอะ (ผู้ใช้ไฟสามารถดูรายละเอียด ตามอัตราค่าไฟฟ้าด้านล่าง)​ 2. ตัวแปรของค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น คือ หน่วยการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น พูดง่าย ๆ ก็ คือ คุณใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเลยทำให้ราคามันก้าวกระโดด 3. หลายคนคงสงสัย ทำไมหน่วยการใช้ไฟฟ้าถึงขึ้นได้มากขนาดนี้ ? ไฟฟ้ามาทำอะไรกับมิเตอร์รึเปล่า ? คำตอบ คือ ไฟฟ้าไม่มีใครไปทำอะไรกับมิเตอร์ลูกค้าหรอกค่ะ ทีนี้เราต้องมาดูพฤติกรรมของลูกค้าและคนในบ้าน ที่บอกว่าใช้ไฟเท่าเดิม ลองคิดนะ เปิดแอร์ เวลาเดิมทุกวัน 8.00 – 12.00 คุณเย็นเท่าเดิมจริง แต่ตัวที่ทำให้มิเตอร์ขึ้นหน่วยไวแค่ไหน อยู่ที่คอมเพลสเซอร์ข้างนอก ถ้าอากาศข้างนอกร้อนแค่ไหน หน่วยการใช้ไฟก็ขึ้นไวเท่านั้นเพราะคอมเพลสเซอร์คุณทำงานหนัก ยิ่งถ้าเปิดแอร์พร้อมกันนะ เสียงคอมดังนานแค่ไหนนั่นแหละคือ ทำใจไว้เลย มิเตอร์กำลังหมุนอย่างแรง และ นั่นคือ เงินที่คุณต้องจ่ายไป เครื่องฟอกอากาศอีก แทบทุกยี่ห่อกินไฟ ลองตรวจสอบดูนะที่บอกประหยัดไฟคือไม่ประหยัดเลย ยิ่งเปิดพร้อมแอร์ คูณกำลัง 2 ไปเลย ตู้เย็น เห็นตั้งนิ่ง ๆ แบบนั้น กินไฟเราแบบเงียบ ๆ นะค่ะ หน้าที่ของตู้เย็นคือต้องทำความเย็นในช่องแช่อาหาร ตามอุณภูมิที่เรากำหนด เช่น เราตั้งไว้ที่ 1 องศา หลักการทำงานคือ ต้องทำยังไงก็ได้ให้ 1 องศาตลอดเวลา นั่นก็ คอมเพลสเซอร์หลังตู้เย็นไงที่เป็นตัวทำงาน – เปิดตู้เย็นบ่อย ๆ เปลืองไฟจริง เพราะตู้เย็นสูญเสียอุณภูมิตอนเปิด – แช่ของแบบไม่คิด ยัด ๆ เข้าไปก็เปลืองไฟจริง ต้องจัดระเบียบตู้เย็นกันบ้าง บ้านที่มีปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าส่วนมาก จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าดังนี้ 1. แอร์ พร้อม คอมเพลสเซอร์ 2. เครื่องฟอกอากาศ 3. พัดลมไอน้ำ 4. ตู้เย็น ยิ่งอัดของเยอะ คอมเพลสเซอร์ตู้เย็นที่ดังตลอดเวลานั่นแหละคือ กำลังกินไฟคุณ ตู้เย็นที่ประหยัดไฟคือตู้เย็นที่แช่แค่เครื่องดื่มไม่เกิน 5 ขวดเท่านั้น ถึงจะได้จ่ายราคาต่อปีตามที่ร้านโฆษณา สรุปคือ ไฟฟ้าไม่ได้ปรับ หรือ ทำอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไรทั้งนั้น ไฟฟ้าการรันตีราคาให้แบบนี้ – ใช้ไปหน่วยที่ 0- 150 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 3.2484 บาท – ใช้ไปหน่วยที่ 151 – 400 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 4.2218 บาท – ใช้ไปหน่วยที่ 400 ขึ้นไป จ่ายราคาหน่วยนะ 4.4217 บาท ยกตัวอย่างการคิดแบบคร่าว ๆ ตัวอย่างที่ 1 ใช้ไฟฟ้าไป 200 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้ 150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท 50 หน่วยที่เหลือ × 4.2218 = 211.09 บาท รวมเป็นเงิน = 698.35 บาท (ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT) ตัวอย่างที่ 2 ใช้ไฟฟ้าไป 400 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้ 150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท 250 หน่วยที่เหลือ × 4.2218 = 1,055.45 บาท รวมเป็นเงิน = 1,542.41 บาท (ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT) ตัวอย่างที่ 3 ใช้ไฟฟ้าไป 600 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้ 150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท 250 หน่วยถัดมา × 4.2218 = 1,055.45 บาท 200 หน่วยที่เหลือ × 4.4217 = 884.34 บาท รวมเป็นเงิน = 2,427.05 บาท (ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT) ตัวอย่างที่ 4 ใช้ไฟฟ้าไป 1,000 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้ 150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท 250 หน่วยถัดมา × 4.2218 = 1,055.45 บาท 600 หน่วยที่เหลือ × 4.4217 = 2,653.02 บาท รวมเป็นเงิน = 4,195.73 บาท (ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT) พอจะเห็นภาพชัดเจนกันขึ้นไหมค่ะ ว่าทำไมค่าไฟถึงได้สูงขึ้น
ภาพจากอีจัน