วานนี้ (21 เม.ย.2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การทดลองเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของยา 2 รายการ ในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในออสเตรเลีย เริ่มต้นขึ้นแล้วที่โรงพยาบาลรอยัล เมลเบิร์น (Royal Melbourne) เมื่อวันอังคาร (21 เม.ย.) และมีแผนขยายการทดลองไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ มากกว่า 80 แห่ง
การศึกษาครั้งนี้นำโดยรองศาสตราจารย์สตีเวน ถง (Steven Tong) แพทย์ด้านโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาลฯ และผู้นำการวิจัยทางคลินิกร่วมที่สถาบันโดเฮอร์ที (Doherty Institute)
จะทดสอบประสิทธิภาพของยาโลพินาเวียร์/ริโทนาเวียร์ (lopinavir/ritonavir) ซึ่งปัจจุบันใช้รักษาการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และยาไฮดรอกซีคลอโรควีน (hydroxychloroquine) ซึ่งใช้รักษาโรคข้ออักเสบ
รวมถึงป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย
การทดลองในห้องปฏิบัติการชี้ว่ายาทั้งสองรายการสามารถหยุดการพัฒนาของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ และองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การยอมรับศักยภาพทางการรักษา ทว่ายังจำเป็นต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อประกันความปลอดภัยและประสิทธิภาพในมนุษย์
- เปิดภาพทีมเเพทย์ หลังถอดชุด PPE นับถือในความอดทน
- ราชกิจจาฯ เผย งานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
-
ดิสนีย์’ พักงานลูกจ้างกว่า 1 แสนคน เซ่นพิษโควิด-19
การทดลองออสตราเลเซียนโควิด-19 (AustralaSian COVID-19 : ASCOT) จะเปิดรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ กว่า 70 แห่งทั่วประเทศ และโรงพยาบาล 11 แห่งในนิวซีแลนด์
“เป้าหมายของการทดลองฯ คือทดสอบว่าการใช้ยาเหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยอาการทรุดลงถึงจุดที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) ได้หรือไม่” ถงกล่าว
“เราจัดการทดลองนี้เพื่อดูความจำเป็นและการปรับเปลี่ยนที่เหมาะสม หากยารายการใดรายการหนึ่งได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพ ก็สามารถปรับการทดลองให้มุ่งเน้นตัวยานั้นๆ ได้ ในทางกลับกันหากยารายการใดไม่ได้ผลหรือก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง ก็หยุดมันได้เช่นกัน”
การคัดกรองผู้ป่วยที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะเข้ารับการรักษาด้วยยารายการใดรายการหนึ่งจากทั้งสองรายการเริ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกันจะมีผู้ป่วยกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับยาทั้งสองรายการเพื่อเปรียบเทียบผลด้วย
“เป็นเรื่องปกติของการทดลองทางคลินิก ผู้ป่วยบางรายจะไม่ได้รับยาตัวใดเลย ซึ่งเป็นไปตาม ‘มาตรฐานการดูแล’ ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในขณะนี้” ถงอธิบาย “เราวางแผนเพิ่มการทดลองที่อื่นๆ
และจะดำเนินการต่อไปทั่วออสเตรเลียในสัปดาห์นี้ ทั้งยังวางแผนเสริมสร้างองค์ความรู้ที่มีจำกัดเกี่ยวกับวิธีรักษาโรคโควิด-19”