หนุ่มจากมณฑลส่านชี วัย 18 ปี เปิดใจ หลังอาสาช่วยทีมเเพทย์สู้โควิด

กราบหัวใจหนุ่ม 18 จากมณฑลส่านชี อาสาช่วยทีมเเพทย์สู้โควิด-19 ในมณฑลหูเป่ย เผย บุคลากรแพทย์ก็อายุไล่เลี่ยกัน พวกเขาทำได้ ทำไมเจ้าตัวจะทำไม่ได้

(22 เมษายน 2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จูหรูกุย เด็กหนุ่มวัย 18 ปีในชุดป้องกัน อาสาสมัครที่เดินทางมาจากมณฑลส่านชี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เล่าความรู้สึกในการช่วยทีมแพทย์ต่อสู้กับโควิด-19 ในมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน ว่า "การทำงานนี้มีความเสี่ยง แต่เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ผมทำงานอย่างหนัก และไม่เสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว คนจำนวนมากไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงต้องไปที่นั่น"

ภาพจากอีจัน
ในวันแรกของเทศกาลตรุษจีน จู ออกจากบ้านมาอย่างเงียบๆก่อนจะกระโดดขึ้นรถไฟมุ่งหน้าสู่มณฑลหูเป่ย อย่างไรก็ตามเนื่องจากการขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการชั่วคราว ทำให้ จู ต้องลงรถไฟที่สถานีซิ่นหยางในมณฑลเหอหนาน และเดินเท้าต่อเป็นระยะทางถึง 110 กิโลเมตร
ภาพจากอีจัน
หลังจากเดินทั้งวันทั้งคืน เขาก็มาถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นสถานที่รักษาผู้ ป่วยโควิด-19 ในเมืองเชี่ยวกัน มณฑลหูเป่ย ในช่วงเวลานั้น สถานการณ์โควิด-19 ในหูเป่ยยังคงรุนแรงอย่างมาก หลังได้รับการฝึกอบรมแบบเร่งรัด เขาได้เข้าทำงานในแนว หน้าของการต่อสู้กับโควิด-19 อย่างรวดเร็ว
ภาพจากอีจัน
งานประจำของ จู คือการส่งอาหารและยา ดูแลผู้ป่วย และคอยสังเกตอาการที่เห็นได้ชัดเจนของผู้ป่วยวิกฤตบางส่วน "ผู้ป่วยบางรายกลืนยาไม่ได้ ผมจะใช้กรรไกรทุบยาทีละเม็ดก่อน แล้วนำไปละลายกับน้ำตาล จากนั้นใช้กระบอกฉีดยาค่อยๆ ป้อนยาให้ผู้ป่วย เวลาที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ผู้ป่วย ผมจะยกตัวผู้ป่วยขึ้นจากเตียง เปลี่ยนผ้าปู เปลี่ยนท่อปัสสาวะ และทำความสะอาดกระบอกปัสสาวะ เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะไม่รู้สึกกลัว แต่ว่าบุคลากรทางการแพทย์เหล่านั้นก็เพิ่งจะอายุ 20 กว่าๆ เท่านั้น ไล่เลี่ยกันกับผม และมีครอบครัวที่ต้องดูแล เหมือนกัน ถ้าพวกเขาทำได้ แล้วทำไมผมจะทำไม่ได้ล่ะ"
ภาพจากอีจัน
ขณะที่ จู ต่อสู้กับโควิด-19 ในหูเป่ยอย่างเหนื่อยยาก แม่ของเขาที่อยู่ที่บ้านรู้สึกเป็นห่วงลูกชายจนไม่อาจข่มตาหลับลงได้ จูเหว่ยหง แม่ของ จูหรูกุย กล่าวว่า "ฉันร้องไห้หนักมาก ฉันไม่ได้อยากจะร้องไห้ แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง ความรู้สึกมันปนเปกันไปหมด ลูกชายฉันกล้าหาญมาก แต่มันเป็นการเดิมพันด้วยชีวิต มันทำให้ฉันเศร้าใจมาก งานที่ลูกทำ ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ฉันก็ทำไม่ได้"
ภาพจากอีจัน
จู ทำงานต่อเนื่องกันเป็นเวลานานมากกว่า 1 เดือน กระทั่งได้รับคำสั่งให้หยุดพัก และหลังกักตัวเป็นเวลามากกว่า 20 วัน เขาจึงเดินทางออกจากเมืองเชี่ยวกันมุ่งหน้าสู่บ้าน ในที่สุด เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 63 จูได้กลับไปซบอ้อมอกแม่อีกครั้งเมื่อสิ้นสุดการกักตัวนาน 2 สัปดาห์
ภาพจากอีจัน