(26 เม.ย.63) ร.ต.ท.หญิง วริศภา เมษสุวรรณ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งพบศพชายนอนเสียชีวิต ภายในบ้าน ในชุมชนโนนสาทร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงรีบรุดไปยังบ้านเกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรมสถาน จ.ชัยภูมิ และแพทย์เวร รพ.ชัยภูมิ
- ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก 2,994,796คน
- หมอเผย ยังไม่มียารักษาโควิด-19 ที่ได้ผลชัดเจน
- 74 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกเซ็นสัญญาซื้อเวชภัณฑ์จีน
ภาพจากอีจัน
ที่เกิดเหตุพบศพชายไทย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายดำรงค์ฤทธิ์ อายุ 37 ปี อยู่ในสภาพนอนงาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องครัว ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย ซึ่งจากการตรวจชันสูตรศพของแพทย์เวร รพ.ชัยภูมิ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง
ภาพจากอีจัน
สอบถามนายยศ เผือกนอก อายุ 62 ปี น้าชายผู้เสียชีวิตที่มีบ้านติดกัน เล่าว่า เมื่อก่อนผู้ตายทำงานเกี่ยวกับก่อสร้างแห่งหนึ่ง หลังจากดื่มเหล้าหนัก ได้ออกจากงานมาอาศัยอยู่บ้านกับแม่ที่บ้าน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยความอยากกินเหล้าแม่ไม่มีเงินให้ ได้ขโมยสิ่งของมีค่าในบ้านไปขายจนหมด กินเหล้าหนัก จนติด จนเลิกกินไม่ได้
หลังมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีการประกาศห้ามขายเหล้ามาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ตายไปขอเหล้ากินกับเพื่อนที่รู้จักกันได้บ้าง แต่ 2 วันที่ผ่านมา ผู้ตายไปขอเหล้ากินกับเพื่อนไม่ได้กิน จนเกิดอาการกระวนกระวาย จนเช้าวันที่ 26 เม.ย.63 ตนตื่นมานั่งทำงานช่วยภรรยาทำงานที่หลังบ้านที่อยู่ติดกัน ได้ยินเสียงดังเหมือนคนดิ้นทุรนทุรายที่ห้องครัวบ้านหลังเกิดเหตุ ตนมองดูผ่านหน้าต่างเห็นผู้ตายดิ้นทุรนทุราย ก่อนเงียบไปสักพักก็คิดว่าหลับไป
จนเวลาผ่านไป ภรรยาของตนได้บอกให้มาดูผู้ตายและเรียกไปกินข้าว พบว่ายังนอนอยู่กลางห้องครัว เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ได้เห็นว่าผู้ตาย นอนตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว จึงโทรแจ้ง 191 ให้ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าลงแดงเนื่องจากไม่ได้กินเหล้าจนทำช็อกเสียชีวิต และผู้ตายก็ไม่มีศัตรูหรือครู่อริมาก่อน
ภาพจากอีจัน
ด้าน ร.ต.ท.หญิง วริศภา เมษสุวรรณ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังจากแพทย์เวร รพ.ชัยภูมิ ได้มาตรวจพิสูจน์ศพแล้ว เบื้องต้นคาดว่านายดำรงฤทธิ์ คงจะลงแดงจากการขาดเหล้าทำให้หัวใจวายทำให้เสียชีวิต แต่สาเหตุการเสียชีวิตแพทย์ได้เจาะเอาเลือดของผู้ตายส่งพิสูจน์ว่ามีสารเสพติดหรือไม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุในการเสียชีวิต จึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติ ไปบำเพ็ญกุศลต่อไป