วานนี้ (28 เม.ย.2563) ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉกุเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 1)
โดยที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ยังคงปรากฏอยู่ แม้จะควบคุมไว้ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขไทย ความเข้าใจ สถานการณ์ และที่สาคัญคือความร่วมมือจากภาคประชาชน
แต่เนื่องจากโรคนี้ยังคงระบาดรุนแรง อยู่ในหลายประเทศและยังมีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตลอดจนการไปมาหาสู่ข้ามจังหวัด และการไม่นำพาต่อมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด อันแสดงให้เห็นถึงโอกาสเสี่ยงต่อ การแพร่เชื้อ อีกทั้งองค์การอนามัยโลกได้เตือนให้การผ่อนคลายหรือการยกเลิกมาตรการป้องกันโรค พึงทำด้วยความระมัดระวังและตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพราะเป็นที่ปรากฏแล้วว่าภายหลังการยกเลิก การควบคุม สถานการณ์ในบางประเทศได้กลับมารุนแรงขึ้นใหม่
ดังน้ัน จึงมีความจำเป็นที่จะต้อง ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลจะได้ประเมินสถานการณ์ โดยอาจเพิ่มความเข้มงวดหรือผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการตามข้อมูลของฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และฝ่ายเศรษฐกิจ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563 จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
- รัสเซียยอดป่วยโควิดพุ่ง! 6,400 รายในวันเดียว
- ผู้ว่าฯ ขอนแก่นย้ำชัด ยังไม่ปลดล็อคจังหวัด รอความชัดเจนจากรัฐบาล
- สกลนคร ผู้ว่าฯ ประชุมร่วมผู้ประกอบการในจังหวัด กำหนดมาตรการเตรียมผ่อนปรนบางประเภท