แพทย์จุฬา-มหิดล แนะรัฐฯ ฉุกคิด 3 เรื่องสำคัญก่อนผ่อนปรน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

แพทย์จุฬา-มหิดล โพสต์ แนะนำรัฐบาล 3 เรื่องสำคัญควรไตร่ตรองก่อนผ่อนปรน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชี้ ควรวางกฎระเบียบกิจการก่อน


วันนี้ (29 เม.ย. 63) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับสถานะการณ์โควิด-19 ในประเทศ และเรื่องการผ่อนปรน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยมีเนื้อหาดังนี้

29 เม.ย. 63 โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ต่ำกว่า 10 เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันครับ…เลขที่ออกวันนี้คือ 9

แม้จะยังพอใจชื้นกว่าการเห็นเลขสองหลัก แต่ก็ย้ำให้เรารู้ว่ายังเป็นเลขหลักเดียวแบบแก่ๆ แต่ละคนที่ติดเชื้อมีโอกาสแพร่ให้กับคนอื่นได้มากกว่า 1 คน โอกาสระบาดจึงจะกลับมาได้เสมอ…การ์ดจึงต้องไม่ตก ที่ใจเสียหน่อยคือ วันนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่ม 2 คน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนโรคน่าจะนำเสนอให้ดูว่า ปัจจัยเสี่ยงเกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเรื่องของการทำงานหรือการใช้ชีวิต หากบอกกล่าวเล่าแจ้งก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร กลับจะเป็นประโยชน์ เพื่อให้ช่วยกันระแวดระวังหรือตระเตรียมแนวทางป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น
รวมตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งหมดของไทยเราตอนนี้ 2,947 คน ยังคงค้างอยู่ในระหว่างการดูแลรักษาสองร้อยกว่าคน ช่วงนี้แม้อัตราการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลดูจะค่อนข้างช้าลงกว่าเดิมบ้าง แต่โดยรวมถือว่า ประสิทธิภาพของระบบสุขภาพเราไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆ สัปดาห์นี้แทบทุกคนต่างจับจ้องท่าทีของรัฐบาลในการผ่อนปรนมาตรการ เพื่อให้คนทำมาหากินกันได้ ทางรัฐบาลแจ้งว่า จะประกาศรายละเอียดในสัปดาห์นี้ เข้าใจว่ามีหลายอย่างต้องหารือลงลึกให้แน่ใจก่อนจะประกาศ

ภาพจากอีจัน
“เรื่องสำคัญ 3 เรื่องที่รัฐควรไตร่ตรองให้ดี ก่อนประกาศออกมาคือ” หนึ่ง ระยะเวลาที่จะเปิดกิจการจากเสี่ยงน้อยไปเสี่ยงมากนั้น การเว้นห่างกัน 2 สัปดาห์นั้นสั้นเกินไป ควรเว้นห่างกันเพื่อรอให้พฤติกรรมประชาชนอยู่ตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์แล้วจึงประเมินผลหลังจากนั้นอีก 7-10 วัน ดังนั้นระยะเวลาระหว่างเฟดที่เหมาะสมคือ 1 เดือน
ภาพจากอีจัน
สอง ระหว่างเฟดการเปลี่ยนแปลงนั้น ควรเร่งให้ธุรกิจสีเหลืองและแดงนั้นออกแบบการประกอบกิจการของตนเองใหม่ โดยมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย ลดโอกาสแพร่เชื้อลงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ/หรืออาจต้องใช้แนวทางการประกันความเสี่ยงทั้งต่อกิจการ ตัวบุคคลที่ให้บริการ ตัวบุคคลผู้มาใช้บริการ และต่อสังคม มาจัดระบบการจัดการรายได้ ภาษี และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยที่สุด การปฏิรูปแนวทางการประกอบกิจการสีเหลืองและสีแดงที่กล่าวมานั้น ก็ต้องดำเนินไปนานตราบเท่าที่โรคระบาดยังคงอยู่ ซึ่งจะเป็นปีหรืออาจมากกว่านั้น ถ้ายังไม่มียาและวัคซีน สาม พลิกคิดเช้าจรดเช้าก็ไม่เห็นทางเลยว่า ทางรัฐจะมีกำลังเพียงพอที่จะบังคับใช้กฎระเบียบสำหรับกิจการต่างๆ ได้อย่างถ้วนทั่ว และต่อเนื่องกลไกการประเมิน ตรวจสอบมาตรฐานการป้องกันโรค COVID-19 ระหว่างการดำเนินงานของกิจการต่างๆ และของประชาชนที่ออกไปใช้ชีวิตหลังปลดล็อคนั้น อาจต้องได้รับการออกแบบให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ มิฉะนั้นออกกฎระเบียบมา แต่สุดท้ายคนก็อาจไม่ปฏิบัติตาม คนตกงานจำนวนมาก อาจต้องมีงานลักษณะใหม่ที่ออกมา พร้อมรูปแบบการจ้างงาน จะโดยรัฐ หรือเอกชน หรือองค์กรปกครองปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มมาช่วยในเรื่องนี้ ก็อาจเป็นไปได้
ภาพจากอีจัน
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะหากระบาดมา จะเป็นหย่อมเล็ก หรือหย่อมใหญ่ก็ตาม ตัวกิจการก็อาจถูกปิดหากสอบสวนโรคแล้วมีส่วนเกี่ยวข้อง ตัวคนให้บริการ คนรับบริการ ล้วนโดนผลกระทบกันหมด ไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่เป็นเดือน กว่าจะหาย นี่จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายอาจต้องร่วมกันลงทุนทำ เพื่อเป็นหลักประกันว่าทุกคนจะปลอดภัย ทำงานได้ หากินได้ ใช้ชีวิตได้ ในระยะยาว
ภาพจากอีจัน
เอาใจช่วยทุกคนครับ…#อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ #StayHome #อยู่บ้านกันนะครับ #ทำงานจากที่บ้านไปก่อนนะครับถ้าเป็นไปได้ #ออกจากบ้านยามจำเป็น #ใส่หน้ากากเสมอล้างมือบ่อยๆอยู่ห่างจากคนอื่น #NewNormal_NewMe ไทยต้องทำได้ครับ…^_^