ออสเตรเลียดักจับ แห่นำเข้า ‘ยาต้านโควิด-19’ ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ เพียบ!

อันตราย! ออสเตรเลียเร่งขัดขวางการนำเข้า ยารักษาไข้มาลาเรีย อ้างสรรพคุณรักษาโควิด-19 ได้ หลัง ปชช.แห่นำเข้าเพียบ หวั่นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เมื่อความหวังมา ทุกคนก็ต้องขวนขวายไว้ก่อน แต่อย่าลืมตรวจสอบที่ชัดเจน อย่าเป็นเหมือนเคสออสเตรเลียเคสนี้
วันนี้ 8 พ.ค. 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานพิทักษ์พรมแดนแห่งออสเตรเลีย (ABF) เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 พ.ค.63 ว่าทางสำนักงานยึดยาไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรียได้จำนวนหลายพันโดส หลังจากยาชนิดนี้ถูกสันนิษฐานว่าอาจมีแนวโน้มรักษาโรคโควิด-19 ได้
สำนักงานพิทักษ์พรมแดนแห่งออสเตรเลียประกาศเตือนชาวออสเตรเลียไม่ให้นำเข้ายาดังกล่าว และต้องบริโภคยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น หลังจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มีการสกัดการขนมอบสินค้าที่ผิดกฎหมายหลายสิบรายการ ซึ่งยาที่พบมีจำนวนรวมมากกว่า 6,000 เม็ด

“ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ต้องการสั่งยาด้วยตนเอง หรือเป็นอาชญากรที่ต้องการขายยาในตลาดมืด เจ้าหน้าที่ของเรามีเทคโนโลยี ทักษะ และกระบวนการทันสมัย ที่จะตรวจจับและขัดขวางการนำเข้าที่ผิดกฎหมาย” ซูซาน เดรนนัน รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานกล่าว

ทั้งนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวไว้ว่ายาไฮดรอกซีคลอโรควินจะเป็น “ตัวพลิกเกม” ที่มีศักยภาพในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทำให้เกิดกระแสความสนใจต่อยาตัวนี้ไปทั่วโลก

ภาพจากอีจัน
อย่างไรก็ตาม กระแสตื่นเต้นส่วนใหญ่ได้จางหายไป เนื่องจากผลลัพธ์ทางคลินิกที่ไม่สามารถสรุปได้และความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาปรากฏให้เห็นชัดเจน สำนักงานผลิตภัณฑ์รักษาโรค (TGA) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลของออสเตรเลียระบุว่ายาไฮดรอกซีคลอโรควินอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น ภาวะหัวใจหยุดเต้น เกิดความเสียหายต่อดวงตาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอย่างรุนแรง ทั้งยังมีแนวโน้มจะก่อให้เกิดอาการโคม่าด้วย ในบทบรรณาธิการทางการแพทย์ที่ตีพิมพ์เมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) รองศาสตราจารย์ดาร์เรน โรเบิร์ตส์ จากโรงพยาบาลเซนต์วินเซนต์ในซิดนีย์เตือนว่าการใช้วิธีการรักษาโรคโควิด-19 ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสาธารณสุขอย่างใหญ่หลวง “ที่ผ่านมางานวิจัยบางชิ้นที่เผยแพร่ในสื่อถูกนำมาโฆษณาเร็วเกินไป ก่อนที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นจะทบทวนอย่างละเอียด” เขาอธิบาย “ยาอาจเป็นภัยหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เช่นในการศึกษาล่าสุดของบราซิลเกี่ยวกับการใช้ยาคลอโรควินที่ต้องหยุดไปตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และแม้กระทั่งเกิดกรณีเสียชีวิตเนื่องจากใช้ยามากเกินไป เราจึงควรระมัดระวังในการใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินเช่นเดียวกัน” “ประชาชนควรขอคำแนะนำที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ซึ่งจะอ้างอิงจากหลักฐานที่มีล่าสุด” เขาสรุป(แฟ้มภาพซินหัว : เวชภัณฑ์ที่ส่งจากจีนถึงออสเตรเลีย เก็บอยู่ที่โกดังแห่งหนึ่งในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2020)