อนาถ หญิงม่ายวัย 57 ถูกแทงดับ ขณะลูกเลี้ยงหายตัวไปหลังเกิดเหตุ

ตำรวจ สภ.น้ำพอง รับแจ้ง พบศพหญิงม่ายวัย 57 ปี ถูกแทงเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ขณะที่ลูกเลี้ยงหายตัวไป ชาวบ้านชี้ ได้ยินทั้งสองทะเลาะกันก่อนพบเป็นศพ

วันนี้ (9 พฤษภาคม 2563) พ.ต.ท.ประยุทธ คำบอนพิทักษ์ สว.สอบสวน สภ.น้ำพอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหนองทุ่ม ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ว่าพบคนถูกฆ่าตายในหมู่บ้าน ตำรวจจึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพผู้ตายอยู่ที่พื้นที่ดินบริเวณหน้าบ้าน ทราบชื่อคือนางบุญมี หรือนางติ๋ม อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน อยู่ในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพู ใส่กางเกงขายาวสีเทา ใบหน้าซีกขวาถูกทุบด้วยของแข็งจนเละ มีฟันหลุด ใกล้กับศพผู้ตายมีมีดสปาต้า เปื้อนเลือดตกอยู่ พร้อมทั้งมีเปลสนามติดคราบเลือดบริเวณด้านบน และกองเลือดใต้เปลสนาม มีโทรศัพท์มือถือวางอยู่บนเปล 1 เครื่อง มีลำโพงบลูธูท และพวงกุญแจ ตกอยู่ข้างเปล เจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน คาดผู้ตายเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 6 ชม. ตำรวจจึงมอบศพให้มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง นำศพไปที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพตามขั้นตอน

ภาพจากอีจัน
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า นางติ๋ม เคยมีครอบครัวในเมืองขอนแก่น แต่เลิกกันนานแล้ว ต่อมาได้สามีใหม่มีอาชีพขายของตามตลาดนัด แต่สามีได้เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จากนั้น นางติ๋ม ก็อาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ยึดอาชีพหมอนวดแผนโบราณ หาลูกค้านวด ตามหมู่บ้านที่ลูกค้าเรียกไป
ภาพจากอีจัน

โดยเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา มีชายทราบเพียงชื่อเล่นว่า “นายเป้” รูปร่างผอมสูงประมาณ 170 ซม. ตัดผมรองทรง มาหานางติ๋มที่บ้าน โดยนางติ๋ม ก็บอกกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงว่า นายเป้ เป็นนักดนตรีเปิดหมวกตามตลาดนัด เป็นลูกเลี้ยงที่สามีเคยเลี้ยงดู โดยจะมาอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด ไม่สามารถร้องเพลงได้ และ นางติ๋ม เคยไปบอกกับกำนันและผู้นำชุมชนว่า นายเป้ เป็นคนประสาท กินยาจิตเวชประจำ ชาวบ้านหลายคนที่รู้จึงได้ตักเตือนว่า ไม่ควรให้มาอาศัยอยู่ด้วย เพราะจะเกิดอันตรายกับชาวบ้าน ซึ่งตั้งแต่นายเป้มาอยู่ด้วย ที่บ้านนางติ๋ม จะมีการดื่มกินเปิดเพลงเสียงดังตั้งแต่ช่วงเย็นจนดึกดื่นชาวบ้านมาบอกกล่าวก็ถูกไล่ตะเพิด บางรายถูกนางติ๋ม ถือมีดสปาต้าข่มขู่ เพื่อนบ้านจึงไม่ใส่ใจ

ภาพจากอีจัน

โดยก่อนที่จะถูกฆ่าตายนั้น ช่วงกลางวัน วันที่ 8 นางติ๋ม ออกจากหมู่บ้านไปนวดให้ลูกค้า ที่บ้านจึงเหลือเพียงนายเป้ ที่คอยเลี้ยงสุนัขและดูแลบ้าน โดยช่วงเย็น นางติ๋ม กลับจากไปนวดให้ลูกค้าได้ซื้อสุรามาดื่มที่บ้านกับลูกเลี้ยง และเปิดเพลงเสียงดังลั่น โดยประมาณ 3 ทุ่ม นางติ๋มเดินไปหาเพื่อนบ้านพร้อมกับบอกว่า ให้ไปไล่นายเป้ ลูกเลี้ยงออกจากบ้านให้ด้วย แต่เพื่อนบ้านเห็นว่านางติ๋มเมา จึงได้แต่ปลอบใจว่า สร่างเมาแล้วค่อยคุยกันดีๆ คุยตอนเมาจะไม่รู้เรื่อง นางติ๋มจึงเดินกลับมาที่บ้าน จากนั้นเพื่อนบ้านข้างเคียงก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และเสียงเพลงก็เปิดดังขึ้นกว่าปกติ จนรุ่งเช้า ชาวบ้านจึงพบนางติ๋มเป็นศพ ส่วนนายเป้ ลูกเลี้ยงก็หายตัวไป

ภาพจากอีจัน
ทางด้านนางแป๋ว เพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า คืนที่นางติ๋ม เสียชีวิต ตนได้ยินเสียง นายเป้ ต่อว่า นางติ๋ม ว่า “เมื่อคืนมึงไปไหนมา มึงบอกกูว่ามึงจะไปเอาเงิน 200 แต่มึงกลับมาเที่ยงคืน มึงไปมีอะไรกับชู้มาใช่มั้ย” ตนจึงคาดว่าทั้งสองเป็นเเม่ลูกหรือเป็นสามีกันแน่
ภาพจากอีจัน
ล่าสุด พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เผยว่า ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังกันออกหาเบาะแสของผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยมีเบาะแสว่า ผู้ต้องสงสัยได้นั่งรถโดยสารสายน้ำพอง-ขอนแก่น มาลงที่ บขส.3 ริมถนนเลี่ยงเมือง ในเมืองขอนแก่น แต่ไม่มีเงินค่ารถ จึงทิ้งกีตาร์ให้กับคนขับรถโดยสารแล้วก็หายตัวไป โดยบอกเพียงว่าจะนำเงินมาไถ่ถอนคืนภายหลัง
ภาพจากอีจัน

ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจยึดกีตาร์ตัวดังกล่าวไว้ พร้อมทั้งสอบสวนคนขับรถโดยสารไว้แล้วเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องสงสัยจากทางการแพทย์ เนื่องจากทราบว่า นายเป้ ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว ได้ไปขอยาที่ใช้รักษาทางจิตเวช ใน รพ.สต.ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ซึ่งหากได้ข้อมูล ก็จะได้ชื่อจริงและที่อยู่ของนายเป้ ว่ามีภูมิลำเนาที่ใด แต่ถ้านายเป้ ไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่านางติ๋ม ก็ขอให้มาพบตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลในการตามตัวคนร้าย ที่ลงมือมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพจากอีจัน

ในขณะเดียวกันญาติได้นำศพนางติ๋มไปตั้งสวดอภิธรรมที่วัดสมศรีบ้านพังทุย ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ตามพิธีกรรมทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว