ประกันสังคม ปล่อยกู้ 30,000 ล้านบาท ส่งเสริมการจ้างงานสู้โควิด-19

สำนักงานประกันสังคม ปล่อยสินเชื่อ 30,000 ล้านบาท ส่งเสริมการจ้างงานให้สถานประกอบการที่เจอพิษโควิด-19

หลังจากที่รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 ให้สามารถรักษาการจ้างงานให้ผู้ประกันตนมีงานทำต่อเนื่องและอยู่ในระบบประกันสังคมนั้น

ภาพจากอีจัน


เกี่ยวกับเรื่องนี้ (10 พฤษภาคม 2563) นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้มีโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท เพื่อให้สถานประกอบการกู้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการเสริมสภาพคล่อง ให้มีศักยภาพ มีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการกู้เพื่อ Refinance ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่ง ณ ขณะนี้มีธนาคารเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานแล้ว จำนวน 2 ธนาคาร ได้แก่

1.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) วงเงินสินเชื่อ เพื่อกู้ในโครงการฯ จำนวน 2,000 ล้านบาท
2.ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีระยะเวลาการยื่นคำขอกู้ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึง 31 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าวงเงินโครงการจะหมด

สำหรับวงเงินสินเชื่อ นางพิศมัย เผยว่าได้มีการจัดสรร ดังนี้

1. วงเงิน 18,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 50 คน วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท ต่อราย
2. วงเงิน 9,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 51 – 200 คน วงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่อราย
3. วงเงิน 3,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบที่มีลูกจ้างเกิน 200 คน วงเงินกู้ไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่อราย

ภาพจากอีจัน
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น สถานประกอบการที่สนใจกู้และมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอัตราดอกเบี้ย จะอยู่ที่ร้อยละ 3 ต่อปี และคงที่ 3 ปี และในกรณีสถานประกอบการที่สนใจกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 5 ต่อปี และคงที่ 3 ปี สำหรับข้อกำหนดของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมและจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน และหลังจากที่ได้รับสินเชื่อไปแล้ว ต้องรักษาจำนวนผู้ประกันตนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้ประกันตน ณ วันที่ได้รับสินเชื่อตลอดอายุโครงการ 3 ปี ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบให้มีการ เลิกจ้างลูกจ้างในสถานประกอบการ โดยสำนักงานประกันสังคมจะมีการตรวจสอบข้อมูลทุก 1 ปี ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถขอหนังสือรับรองสถานะสถานประกอบการ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่ง เพื่อนำไปติดต่อขอยื่นกู้กับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ นางพิศมัย กล่าว
ภาพจากอีจัน