กองปราบรวบ “ซ้อบี เจ้าแม่แชร์ร้อยล้าน” หลังประกันตัวออกมาก่อเหตุซ้ำอีก

ไม่รอด! ซ้อบี เจ้าแม่แชร์ร้อยล้าน โดนตร.กองปราบรวบ หลังตั้งกลุ่มไลน์หลอกเหยื่อลงทุนแชร์ – เล่นพนันออนไลน์

(9 พ.ค.63) กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สุพิชญา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี กระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” จับกุมได้ที่คอนโดในซอยสุขุมวิท 48 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

ภาพจากอีจัน


การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 มี.ค.63 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กกก.3 บก.ป. ได้จับกุมตัว น.ส.สุพิชญา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ขอประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยพฤติการณ์การกระทำผิดในครั้งนั้น ผู้ต้องหาได้ตั้งกลุ่มแชร์ชื่อ “ซ้อบี” ชักชวนผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุน อ้างว่าจะได้รับผลกำไรตอบแทนสูง, หลอกลวงผู้เสียหายว่าจะพาไปทำงานต่างประเทศ และหลอกลวงผู้เสียหายทางออนไลน์ ให้มาลงทุนส่งออกหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ไปขายที่ต่างประเทศ

ภาพจากอีจัน


ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาประกันตัวออกมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า น.ส.สุพิชญา ยังคงมีพฤติการณ์หลอกลวงบุคคลอื่น โดยใช้ช่องทางออนไลน์ต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนเล่นแชร์, เล่นพนันหวยออนไลน์, เล่นพนันบอลออนไลน์ โดยในครั้งนี้ผู้ต้องหาได้ให้บุคคลอื่นมาทำธุรกรรมต่างๆ แทนตนเอง ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนอีกเป็นจำนวนหลายราย

ตำรวจจึงได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ได้มาเช่าห้องอยู่ที่คอนโดในซอยสุขุมวิท 48 เพื่อเป็นสถานที่พักอาศัยและดำเนินกิจการในการรับแทงหวยออนไลน์, พนันบอลออนไลน์, การเล่นแชร์ต่างๆ โดย น.ส.สุพิชญา จะไม่ออกจากห้องพัก แต่จะให้บุคคลอื่นซื้อเครื่องดื่มและอาหารเข้ามาส่งเป็นประจำ ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว น.ส.สุพิชญา ยินยอมให้ตำรวจชุดจับกุมตรวจค้นห้องพัก โดยผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับผู้ต้องหาให้ผู้ต้องหาอ่านดูจนเข้าใจดีแล้ว จึงทำการจับกุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา

ตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับจากศาลจังหวัดอุบลราชธานี ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

หมายจับของศาลแขวงนครปฐม ข้อหา “ฉ้อโกง”


ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด