ถึงฤดูทำนา แต่ฝนยังไม่มา แถมน้ำก็ไม่มี ทุกข์ชาวนา จำต้องเสี่ยงหว่านข้าวแห้งเพื่อรอฝน!
วันนี้ (12 พ.ค. 2563) ทีมข่าวอีจันรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร ต้องเสี่ยงหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวแห้ง ลงในแปลงนาที่แห้งไม่มีน้ำ ตามวิธีที่เรียกว่า หว่านแห้ง หรือ หว่านสำรวย เป็นการหว่านข้าวนาปีของชาวนาด้วยหวังว่าจะมีฝนตกลงมาและทำให้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่หว่านลงไปจะงอกงามขึ้นมา และคงต้องเสี่ยงกับฝน หากไม่มีฝนตกลงมาภายใน 2-3 เดือน จะทำให้พันธุ์ข้าวที่หว่านไปเสียหาย และขาดทุน โดยสาเหตุที่ชาวนาต้องเสี่ยงกับความเสียหายจากภาวะภัยแล้ง เนื่องจากหากไม่ทำช่วงนี้ก็จะไม่ทันในการเก็บเกี่ยว เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก น้ำก็จะท่วมข้าวจนได้รับความ เสียหายก่อนเก็บเกี่ยว
นาย สุบรรณ บุญทัน อายุ 67 ปี ชาวนาในพื้นที่ ต.สายคำโห้ อ.เมืองพิจิตร เผยว่าการหว่านข้าวแห้งในหน้านี้ต้องเสี่ยงต่อการเสียหายของเมล็ดข้าวที่หว่านไปเพราะไม่รู้ว่าจะมีฝนตกลงมาตอนไหนและต้องเสี่ยงนกและหนูที่คอยจะมากินเมล็ดข้าวที่หว่านเอาไว้ถ้าในช่วงที่ทำการหว่านเมล็ดข้าวไปแล้วหากไม่มีฝนตกลงมาใช่วง 2-3 เดือนจะทำให้เมล็ดข้าวแห้งที่หว่านไปเสียหาย ไม่งอกและจะต้องลงทุนหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวใหม่เป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับเกษตรกรชาวนา
สำหรับนาข้าว ตำบลสายคำโห้ อำเภอเมืองพิจิตร เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน ต้องเจอกับสภาวะที่แห้งแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก ไม่มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ จึงไม่สามารถทำนาปรังได้ จะทำได้ก็เฉพาะนาปีเท่านั้น ส่วนวิธีการทำนาก็จะใช้วิธีหว่านแห้ง คือ หว่านสำรวยโดยไม่มีน้ำและรอความหวังจากน้ำฝนที่จะตกลงมา ซึ่งเป็นความหวังเดียวในการทำนาเท่านั้น