จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งเข้าจ่ายค่าปรับที่ สภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ แต่กลับต้องเจอเรื่องราวที่ทำเอาผวา เมื่อตำรวจเข้ามาลวนลามเธอ อีกทั้งใช้คำพูดละเมิดเธอ ก่อนเธอจะทิ้งท้ายไว้ว่านี่หรือคนของสังคม พร้อมยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (12 พ.ค. 2563) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.ขอเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มี “สาวโพสต์ แฉไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักเจอ ตร.ลวนลามโอบเอว ลากเข้าห้องขอจับได้ไหม” ในพื้นที่ สภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ว่า ขณะนี้ทางผู้กำกับการ สภ.สหัสขันธ์ ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว โดยในวันนี้ จะมีการประสานผู้เสียหายพร้อมสหวิชาชีพมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริง อีกทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวนั้น จะมีการตั้งกรรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 7 วัน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะดำเนินทั้งทางวินัยและอาญาในส่วนที่เกี่ยวข้อง
รอง โฆษก ตร. บอกอีกว่า คงต้องรอให้ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากพบว่าตำรวจได้กระทำผิดจริงตามข้อมูลที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียลมีเดีย ก็จะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว ซึ่งจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยขอให้ผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำไปยังทุกกองบัญชาการ ให้หัวหน้าหน่วยทุกพื้นที่ ลงไปกำกับดูแลควบคุมความประพฤติ และวินัยข้าราชการตำรวจในสังกัด ทั้งในและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งตร.ที่ 1212/2537 ในการ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจ ภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
หากพบว่ามีตำรวจประพฤติตนกระทำผิดเสียเอง หรือแม้กระทั่งเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆ ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ หากผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด
ซึ่งวันนี้ทางผู้เสียหายเปิดเผยกับทางอีจันว่ากำลังเดินทางเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป