“เปิ้ล นาคร” ขึ้นโรงพักพาลูกน้องเคลียร์หนุ่มบ้านตรงข้ามพกมีดบุกบริษัท

“เปิ้ล นาคร” ขึ้นโรงพักพาลูกน้องเคลียร์ใจคู่กรณีหนุ่มบ้านตรงข้าม หลังมีเรื่องกันจนอีกฝ่ายพกมีดบุกเข้าบริษัท แต่สุดท้ายจบลงด้วยดี

มีเรื่องที่ต้องทำให้คุณพ่อลูก 4 อย่าง เปิ้ล นาคร ต้องปวดหัวถึงกับต้องขึ้นโรงพักแจ้งความ หลังจากพนักงานบริษัทตัวเองถูกคนถือมีดบุกเข้ามาในบริษัทเพื่อจะทำร้ายร่างกาย ซึ่งต้นเหตุมาจากที่คู่กรณีอ้างว่าพนักงานในบริษัทของคุณเปิ้ล เปิดไฟส่องเข้าไปในบ้านเขาบ่อยครั้ง เขาจึงไม่พอใจ ซึ่งวันดังกล่าวพนักงานบอกว่าคู่กรณีมีอาการมึนเมาด้วย โดยเรื่องราวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม แต่ตนเพิ่งจะทราบเรื่องเมื่อวานนี้ เลยมาแจ้งความ

ภาพจากอีจัน
ขณะอยู่ภายในห้องสอบสวนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งสองฝ่ายมีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง โดยยืนยันว่าไม่ใช่ฝ่ายผิด โดยทั้งคู่ต่างก็มีคลิปในเหตุการณ์วันนั้นมาเป็นหลักฐาน สุดท้ายหลังจากไกล่เกลี่ยกันได้มีการอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น คู่กรณีก็ได้กล่าวขอโทษ พร้อมยกมือไหว้ ด้านเปิ้ล นาคร ก็รับไหว้ พร้อมให้อภัยไม่ติดใจเช่นกัน จากนั้นคู่กรณีกับลูกน้องคุณเปิ้ลก็มีการจับมือกันเพื่อปรับความใจกัน โดยคุณเปิ้ลยืนยันว่าไม่เอาเรื่อง วันนี้ที่มาก็ตั้งในจะมาไกล่เกลี่ยโดยเฉพาะ แต่ทางตำรวจก็ต้องตั้งข้อหาตามหน้าที่
ภาพจากอีจัน
อย่างไรก็ตาม เปิ้ล นาคร ได้ออกมาเปิดใจก่อนจะกลับว่า ลูกน้องของตนเป็นคนประเทศพม่า หน้าตาเขาจึงอาจจะไม่ค่อยยิ้ม เลยทำให้คนเข้าใจผิดได้ ตนอยู่กับเขามา 20 ปี ไม่เคยมีอารมณ์ร้อนให้เห็นเลย ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงน่าจะมาจากความอคติ รวมถึงความมึนเมาของคู่กรณี จริงๆ ตนจะไม่มาโรงพักก็ได้ แต่ห่วงความปลอดภัยของลูกๆ แต่หลังจากที่ได้เคลียร์กันวันนี้ ก็สบายใจแล้ว คิดว่าจากนี้คงไม่มีปัญหาอะไรกันอีก
ภาพจากอีจัน
หลังจากไกล่เกลี่ยเป็นยังไงบ้าง ? "ทางผู้ก่อเหตุที่มีเรื่องกับทางบริษัทตน เขาเข้าใจผิดระหว่างนั่งดื่มเหล้าฝั่งตรงข้ามออฟฟิค จากการที่พนักงานตนนั่งเปิดไฟภายในรถ จนไปรบกวนตาเขามาโดยตลอด จนกระทั่งมารู้ว่าคนที่มารบกวนเขามีหน้าที่ปิดตึก และรอรับภรรยาที่อยู่ฝ่ายบัญชี พร้อมกับลูกที่กำลังทำการบ้านภายในตึกทุกวัน จึงเป็นเหตุให้เขาต้องสตาร์ทรถ และสาดไฟระหว่างที่ผู้ก่อเหตุนั่งกินเหล้าอยู่ จนผู้ก่อเหตุมารู้ช่วงหลังว่าพนักงานตนต้องรอรับภรรยาและลูก จึงสำนึกผิด แล้วก็ขอโทษ"
ภาพจากอีจัน
ในวันที่ผู้ก่อเหตุพกมีดมา มีเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นไหม? เปิ้ล “มันมีก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว วันที่มีเรื่องคือ พนักงานผมเขาเปิดไฟสตาร์ทรถ และปิดบริษัทแต่ปรากฎว่าไฟไปส่องเขาตอนเขานั่งดื่มเหล้าอีก เขาก็เลยตะโกนออกไปว่า "มึงเปิดไฟส่องกุทำไม" พร้อมทั้งส่งนิ้วให้อวัยวะเพศมา ลูกน้องผมก็หน้านิ่งๆ ไม่ได้คิดอะไร พนักงานของผมก็ลูกผู้ชายนะ ถ้าจะให้ก็เดินมาเอา เลยพูดบอกมาสิ เท่านั้นล่ะ เขาก็ข้ามเข้ามาเลย แล้วก็ถือมีดเข้ามา อย่างที่เห็นภาพ ซึ่งตอนนี้ผมก็ไม่อยากโทษใคร อย่างที่เขามีอคติมาตั้งแต่ต้นว่าไปรบกวนการดื่มเหล้าของเขา เพราะอะไรพอเขารู้เหตุผล เขาเลยขอโทษอย่างที่เห็น"
ภาพจากอีจัน
แจ้งกี่ข้อหา? เปิ้ล “พี่เปิ้ลไม่ได้แจ้ง ทางตำรวจเป็นคนแจ้งเอง เพราะพี่เปิ้ลบอกให้อภัยทุกอย่าง ไม่เข้าใจไม่เป็นไรตอนนี้เราเข้าใจสภาพเศรษฐกิจ ทุกคนอาจจะงานน้อยลง เงินน้อยลงก็อาจจะเครียด ดื่มเหล้า จนรู้สึกขวางหูขวางตา ซึ่งเราก็เห็นใจเขาจึงบอกว่าทีหลังก็อย่าทำ ปรับทัศนคติของตนเอง กับเพื่อนบ้าน และบุคคลในบริษัทใหม่ได้มั้ย เพราะพนักงานของเปิ้ลเขาก็ทำมาหากิน ไม่คิดจะมีเรื่อง โดยเฉพาะพนักงานคนนี้ที่อยู่กับเปิ้ลมา 20 ปี เป็นคนที่ดีมากๆไม่เคยมีเรื่องกับใคร พอเราทราบเลยเลยรู้สึกว่ามันจริงหรอ พนักงานของเราจะไปเปิดไฟกระพริบ เล่นๆทุกวันเพื่ออะไร " แสดงว่าเขามีปัญหากันสักพักแล้ว ? “ คงมีปัญหากันยิบๆ ย่อยๆ มองหน้าทำไม ทำไมไม่ยิ้มให้กู บางวันก็เดินมาบอกยิ้มให้ทำไมไม่ยิ้ม มากินเหล้าด้วยกันไหม แล้วใครจะกล้าไปกิน “ เคยรับรู้ปัญหาของเขาไหม ? “ เคยได้ยินมาตลอดเวลา ว่าเวลาเขาเมาจะเป็นแบบนี้ แต่เราก็คิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง แค่คนเมา แล้วเราก็อยู่กันเยอะแยะ “ กลัวว่าหลังจากนี้จะมีปัญหาอีกไหมเพราะอยู่ตรงข้ามกัน ? “ เชื่อว่าคงไม่มีแล้ว จากสายตาเขา แล้วที่เขารับปากกับตำรวจและสื่อมวลชนทุกคน รับปากกับพี่เปิ้ล แล้วก็ยอมขอโทษแล้ว คิดว่าคงไม่มีปัญหาแล้วในอนาคตถ้าเขาเดือดร้อน มีอะไรให้ช่วยเหลือ พี่เปิ้ลก็ยินดี “ ตอนที่ทราบเรื่องโมโหไหม ? “ โมโหพนักงานมากกว่าที่ปล่อยให้เวลาผ่านไป 1 อาทิตย์เต็มๆ แล้วค่อยมาบอกพี่เปิ้ล เราก็เลยต้องให้เรื่องมันจบ แล้วไม่บอกเรื่องก็ไม่จบ แล้ววันดีคืนดีเขาไม่พอใจอะไรอีก แล้วเดินถือมีดมาจ้วงแทงลูกที่นั่งทำการบ้านอยู่ในบริษัทล่ะ พี่เปิ้ลไม่ได้อยากจะมีเรื่อง แต่เราจำเป็นต้องเคลียร์ทุกปัญหา เพื่อให้ทางเรียบที่สุด เพราะเรากำลังเดินไปข้างหน้าด้วยกัน “ เป็นครั้งแรกเลยไหมที่เกิดเรื่องแบบนี้ ? “ ครั้งแรกของบริษัทเลย เพราะบริษัทเราพนักงานทุกคนก็เฟรนลี่ ทำงานบันเทิง “ สภาพจิตใจพนักงานเป็นยังไงบ้าง ? “ ผมว่าพนักงานบางคนก็อาจจะระแวง เพราะเป็นผู้หญิงหลายคน แล้วเขาก็นั่งกินเหล้าอยู่ตรงข้ามทุกวัน จะเกิดอะไรอีกไหม แต่ถ้าเขารับปากแล้วก็ไม่มีอะไร เพราะเวลาเขาไม่เมาก็พูดจาสุภาพมาก มีอะไรให้ช่วยเหลือก็บอกได้ กินเหล้าแล้วขาดน้ำแข็งก็จะซื้อไปให้ “