เตือน! อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพหลอกลงทุนออนไลน์ช่วงโควิด-19

สคบ. เตือนประชาชน คิดให้รอบคอบก่อนลงทุนออนไลน์ ชี้มิจฉาชีพฉวยโอกาสช่วงโควิด-19

จากวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ช่วงนี้เศรษฐกิจซบเซา คนตกงาน ค้าขายลำบาก แต่กลับมีมิจฉาชีพอาศัยช่วงนี้เป็นช่องทางในการหลอกลวงให้ผู้ที่รับผลกระทบให้มาลงทุนออนไลน์ เล่นแชร์ จนเกิดความเสียหาย

13 พฤษภาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เผยว่า ได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากประชาชนว่ามักจะมีคนมาชวนให้ไปเล่นแชร์ ร่วมลงทุนง่าย ๆ อยู่บ้านรอวันได้เงิน ตอนนี้มีหลายเพจชักชวนให้ไปเล่นในลักษณะดังกล่าวเยอะมาก สคบ. จึงขอเตือนประชาชนอย่างหลงเชื่อ อย่างมงาย ใช้สติในการพิจารณาวิเคราะห์อย่างรอบด้าน

หากประชาชนได้รับการชักชวนให้นำเงินเข้ามาร่วมลงทุนในระบบออนไลน์ และการลงทุนนั้นเป็นการชักชวนประชาชนร่วมลงทุนและมีการการันตีถึงรายได้ที่เกิดจากการนำเงินไปลงทุน จะไม่เข้าข่ายเป็นผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค และพระราชบัญญัติขายตรงขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.๒๕๔๕ แต่อาจเป็นความผิดตามพระราชกำหนดกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับตาสืบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว

ภาพจากอีจัน


อย่างไรก็ตาม ในสถานการเช่นนี้ สคบ. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดการส่งเสริมการขายในลักษณะการตลาดเชิงรุก เช่น การเสี่ยงโชค ชิงรางวัล หรือการจัดส่งเสริมการขายที่เป็นการจัดสิทธิพิเศษ ให้ประโยชน์ต่าง ๆ โดยให้เปล่า ต้องมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข โดยปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2534) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ในเรื่องเกี่ยวกับการโฆษณา จัดให้มีการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชค การประกวดชิงรางวัล การจัดให้มีการให้ของแถมหรือให้สิทธิหรือประโยชน์โดยให้เปล่า อย่างเคร่งครัด ผู้ประกอบธุรกิจผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ประกอบธุรกิจการโฆษณาต้องระโทษกึ่งหนึ่งด้วย

ภาพจากอีจัน
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงขอฝากแจ้งเตือนผู้บริโภคพึงระวังอย่าหลงเชื่อโฆษณาที่นำเงินไปลงทุนในระบบออนไลน์ และมีความรอบครอบในการพิจารณาเลือกซื้อสินหรือบริการที่อยู่บนพื้นฐานความจำเป็นและความพอเพียง หากมีข้อสงสัย ร้องเรียน หรือมีเบาะแสสามารถโทรปรึกษาได้ที่สายด่วน สคบ. 1166