จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่รถขนไส้กรอกแช่แข็ง ประสบอุบัติเหตุ คนขับเจ็บหนักมีกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล แต่สิ่งที่ทำเอาตกใจก็คือ คนต่างมารุมแย่งไส้กรอกเหมือนไม่รู้ว่ามีคนทุกข์อยู่ สุดทนตั้งคำถามบ้านเมืองมีกฎหมายรองรับไหม
ล่าสุดวันนี้ 13 พ.ค. 2563 จันได้พูดคุยกับคุณชาติ ตึ่มสูงเนิน ซึ่งเป็นเจ้าของรถบรรทุกที่บรรทุกที่เกิดอุบัติเหตุ คุณชาติเล่าว่า ตนได้รับจ้างส่งไส้กรอกแช่แข็งจากบริษัทหนึ่ง จาก จ.นครราชสีมาไปส่งที่ จ.นครปฐม จึงได้มอบหมายให้พนักงานขับรถไปส่ง แต่ระหว่างทางเกิดฝนตก ทำให้รถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุคนขับเจ็บหนัก ไส้กรอกที่บรรทุกอยู่เต็มคันเทกระจาดออกมาเต็มข้างถนน ระหว่างนั้นตำรวจและกู้ภัยได้นำตัวคนขัยส่งโรงพยาบาล และเรียกให้ทางกรมทางหลวงเข้ามาตรวจสอบความเสียหาย แต่ระหว่างคาบเกี่ยวที่กรมทางหลวงกำลังเดินทางมา ก็มีประชาชนที่ขับรถผ่านไปมาต่างวิ่งกรูเข้าไปเก็บไส้กกรอกกลับบ้าน โดยไม่สนใจความสู้สึกและอันตรายจากการจอดรถข้างทางเลย
พอคุณชาติได้รับแจ้งจากทางตำรวจ ก็รีบไปที่เกิดเหตุเพื่อดูแลคนขับรถที่ยังอาการหนัก ต้องย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาล พร้อมกับไปตรวจสอบความเสียหายของรถและสินค้าที่ทำให้ตกใจ เพราะไส้กรอกหายไปกว่า 10 ตัน จาก 13 ตัน เหลือเพียง 2.5 ตัน ซึ่งทางบริษัทของคุณชาติต้องรับผิดชอบกับทางลูกค้ากว่า 7 แสนบาท
คุณชาติบอกอีกว่า ยอมรับว่าเสียใจมาก จนพูดไม่ออก เพราะตนชอบเป็นคนช่วยเหลือคนมาโดยตลอด ชอบแจกของให้คนที่ขาดแคลน แต่พอเห็นเเบบนี้รู้สึกคนละฟิลด์กันเลย ตอนนี้ได้ลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจไว้แล้ว ใจหนึ่งก็ไม่อยากเอาเรื่องคนที่มาเก็บของไปเพราะถ้าเอาเรื่องเขาก็เดือดร้อน แต่ตอนนี้ตนก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน พร้อมกับทิ้งท้ายว่า การกระทำเเบบนี้ไม่ต่างจากขโมยเลยซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในไทย เพราะมีหลายครั้งที่ประชาชนแห่เก็บของจากรถส่งสินค้าที่เกิดอุบัติเหตุ เหมือนของแจกฟรี แท้จริงแล้วมันมีทุกข์ของคนอยู่ในนั้น
ขฯเดียวกันจันได้สอบถามบทลงโทษทางกฎหมายกับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน โดยทนายตั้มบอกว่า คนที่เขาไปแย่งของจากอุบัติเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายลักทรัพย์ตามกฎหมายอาญา มาตราที่ 334 ว่าด้วยผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท แต่ในกรณีนี้ไม่เข้าข่าย มาตรา 335 เพราะไม่ใช่รถบรรทุกส่วนตัวแต่เป็นของบริษัทขนส่ง พร้อมกับฝากถึงประชาชนที่เข้าไปหยิบของจากอุบัติเหตุ สิ่งที่ควรทำคือการลงไปช่วยเหลือเขา และไม่ควรไม่ซ้ำเติมแบบนี้ เพราะมันไม่สมควร ควรนึกถึงใจเขาใจเรา