รวบยกแก๊งทำไม้ ป่าห้วยศาลา ผู้ว่าจ้างซัดต่อผู้ร่วมขบวนการ

ไม่หยุดตัด ไม่เลิกจับ! ชาวบ้านช่วยล้อมจับ 8 ผู้ต้องหาตัดไม้พะยูง คาป่าห้วยศาลา

ขบวนการลักลอบตัดไม้-ค้าไม้ เมื่อไหร่จะหมดไปจากประเทศไทยเสียที จับเท่าไหร่ก็มีมาให้จับอีก
วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านโนนจำปา ว่า พบผู้ลักลอบทำไม้ 8 คน กำลังขุดไม้พะยูง บริเวณบ้านโนนจำปา ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อนำออกจากพื้นที่ ซึ่งอยู่ในแปลงผ่อนผันให้ราษฎรทำกิน ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
นายสาธิต หน.ขสป. ห้วยศาลา พร้อมด้วย จนท.ขสป. , จนท.ฝ่ายปกครองอำเภอภูสิงห์ และจนท.ทหารร้อย ร.1633 จึงเข้าพื้นที่บริเวณดังกล่าว เพื่อจับกุมผู้กระทำผิด เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ
พบว่า ผู้ใหญ่บ้านพร้อมชาวบ้าน ได้ร่วมกันล้อมผู้กระทำผิดไว้ก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
จากการสอบสวนโดย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สบอ.9 พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ได้แบ่งกลุ่มกันทำงาน กลุ่มที่ 1 ชุดรถเครน 1 ราย คือ นายนิรัตน์ ชาวสุรินทร์ ให้การว่า นายจ้างชาวกัมพูชา เป็นผู้ว่าจ้างให้มาขนย้ายไม้ล้อมออกจากพื้นที่ พอพบเห็นและสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง ทราบว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย จึงกำลังจะเดินทางกลับ แต่ถูกปิดล้อมและเข้าจับกุมเสียก่อน กลุ่มที่ 2 ชุดขุดไม้ 4 ราย โดยทั้งหมดเป็นชาวศรีสะเกษ 1.นายสมพงษ์ 2.นายแสงทอง 3.นายสมสมาน 4.นายแหวน และกลุ่มผู้ว่าจ้าง 3 ราย 1. นายสัมฤทธิ์ ชาวสระแก้ว อ้างเป็นคนขับรถให้นายสาริน ชาวกัมพูชา 2. นางสาวอัจฉราภรณ์ หรือ เจ้หนิง หญิงวัยกลางคน ชาวกรุงเทพ เป็นผู้ควบคุมการขุด พร้อมอ้างว่า "เป็นภรรยา นายสาริน " 3. นายสาริน ชาวกัมพูชา อ้างว่า "รับออเดอร์ไม้ จากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของประเทศกัมพูชา และอ้างหาไม้ถูกกฎหมายในไทย เพื่อนำไปส่งบริเวณชายแดน อรัญประเทศ"
ภาพจากอีจัน
จากการสอบสวน เจ้หนิงและนายสาริน 2 สามี ภรรยา ให้การปฏิเสธว่าไม่ทราบไม่ที่ถูกจ้างมาขนย้ายนั้นผิดกฎหมาย โดยนายชัย (ชื่อกล่าวอ้าง) ชาว จ.สระแก้ว เป็นผู้ติดต่อให้มาล้อมไม้ โดยพาพวกอีก 3 คน ที่อ้างตนว่า เป็นเจ้าของที่ดินแปลงต้นพะยูงดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นที่ทำกินมีเอกสารสิทธิ์ไม้ถูกต้องตามกฎหมาย ตนจึงเกิดหลงเชื่อ โดยไม่ได้ตรวจสอบเอกสาร แต่สุดท้ายทั้งคู่จนมุม เมื่อ นายชัยวัฒน์ สอบสวนย้ำอีกครั้ง 2 สามี ภรรยา จึงเปิดปากรับสารภาพว่า "ซื้อไม้พะยูงต้นดังกล่าว ในราคา 2 แสนบาท พร้อมให้เงินนายชัย ไปกว่า 1 แสน 5 หมื่นบาท พร้อมค่าน้ำมันเดินทาง 1 หมื่นบาท เพื่อนำเงินไปจัดการให้ข้าราชการในพื้นที่ เป็นค่าเปิดทาง ในการนำไม้ เพื่อการเคลื่อนย้ายไม้ได้สะดวก ไม่ติดขัด ในการซื้อขาย ต้นพะยูงต้นนี้ราคารวมทั้งสิ้น 360,000 บาท” ขณะทำการสอบสวน 2 สามีภรรยาพยายาม เกลี่ยกล่อมให้เจ้าหน้าที่แจ้งหาข้อสถานเบากับตน แต่ไม่เป็นผล
ภาพจากอีจัน
ของกลางที่พบคือ ไม้พะยูง มีขนาดกว้าง 270 ซม. สูง 20 ม. ประเมินความเสียหายเป็นเงิน 2,305,000 บาท นายชัยวัฒน์ ผอ. สบอ. 9 อุบลราชธานี กับนายสาธิต หน.ขสป. ห้วยศาลา ได้ทำบันทึกกล่าวหา ตามข้อหา ดังนี้ 1 พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 ม.11 ฐานร่วมกันทำไม้ 2 พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ม.53 ม.55(5) และได้ยึดของกลางกระทำความผิด 27 รายการ ความเสียหายทางแพ่ง มากกว่า 2 ล้าน 3 แสน บาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 8 รายยังไม่ยอมลงรายมือชื่อ อ้างปฏิเสธไม่ยอมเซ็นชื่อรับข้อกล่าวหา แต่อย่างใด
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน