วิกฤติขนาดนี้ อย่าฉวยโอกาสกันอีกเลย เพราะจุดจบของคนโกง จะเหมือนกันทุกราย
วันนี้ 15 พ.ค. 2563 กองบังคับการปราบปรามนำทีมตำรวจชุดจับกุม กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ศิริพร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ 279 / 2556 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ฉ้อโกงผู้อื่น
ภาพจากอีจัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อต้นเดือน เมษายน 2563 ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นพยาบาลโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ราชบุรี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ว่าถูกคนร้ายซึ่งใช้ไลน์ชื่อสั่งซื้อสอบถาม หลอกขายหน้ากากอนามัยผ่านไลน์ดังกล่าว เป็นเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาท โดยเจ้าของไลน์ชื่อสั่งซื้อสอบถามให้ผู้เสียหายโอนเงินจ่ายค่าสินค้าไป แต่หลังจากที่โอนเงินไปก็ไม่สามารถติดต่อไลน์ดังกล่าวได้อีกเลย จึงมั่นใจว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และได้ร้องเรียนมาที่เฟซบุ๊กของกองปราบปรามให้ช่วยติดตามคนร้ายอีกทางหนึ่งด้วย
ภาพจากอีจัน
ต่อมาตำรวจกองกำกับการ5 กองบังคับการปราบปราม จึงได้ทำการตรวจสอบจนพบว่ามีผู้เสียหายที่สั่งซื้อหน้ากากอนามัย จากไลน์ชื่อสั่งซื้อสอบถาม แล้วถูกโกงมีอยู่ทั่วประเทศจากที่ตรวจสอบได้ 10 ราย จาก 8 จังหวัด และยังมีผู้เสียหายอีกหลายสิบรายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท บัญชีธนาคารที่ไลน์ชื่อ สั่งซื้อสอบถาม ใช้หลอกลูกค้ามีจำนวนทั้งสิ้น 5 บัญชี
กระทั่งตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ตรวจสอบจนพบว่าเจ้าของไลน์ชื่อสั่งซื้อสอบถาม คือ น.ส.ศิริพร และจากการตรวจสอบพบว่าได้เปิดเฟซบุ๊กชื่อ ภัชกุล เจ้ไก่ ปล่อยเงินกู้ผ่าน หากลูกหนี้รายใดที่ต้องการกู้เงินต้องถ่ายรูปบัตรประชาชนส่งให้น.ส.ศิริพร แล้วจึงจะนัดหมายทำสัญญาเงินกู้ที่ห้างดังกลางเมืองโคราช โดยลูกหนี้เงินกู้ต้องไปเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมทำบัตร ATM และซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมลงทะเบียนชื่อลูกหนี้เงินกู้มาให้ด้วย
หลังจากนั้นน.ส.ศิริพร ก็จะนำบัญชีธนาคารที่ได้มา ไปหลอกลูกค้าที่สั่งซื้อหน้ากากอนามัยให้โอนมาบัญชีธนาคารลูกหนี้เงินกู้ที่ตนเองถืออยู่ เพื่อไม่ให้ตำรวจตรวจสอบถึงตัวเองได้ ซึ่งลูกหนี้เงินกู้จำนวน 5 รายต้องตกเป็นผู้ต้องหา เนื่องจาก น.ส.ศิริพร นำบัญชีธนาคารไปหลอกให้ลูกค้าที่สั่งซื้อหน้ากากอนามัยโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว
ภาพจากอีจัน
กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนทราบว่า น.ส.ศิริพร หลบหนีมาพักอาศัยที่บริเวณห้องเช่าหลังโรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงได้มาตรวจสอบพบ น.ส.ศิริพร และแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการตรวจสอบ บัญชีธนาคารที่ น.ส.ศิริพร นำมาโกงลูกค้ามีเงินหมุนเวียนในแต่ละบัญชีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท รวม 5 บัญชี ประมาณ 500,000 บาท ซึ่งน.ส.ศิริพร เคยถูกจับกุมคดีฉ้อโกงปี 2556 ท้องที่ สภ.โชคชัย และยังมีหมายจับคดีฉ้อโกง ท้องที่ สภ.ครบุรี อีก 1 หมายจับ
โดย น.ส.ศิริพร ให้การรับสารภาพว่าตนเองได้เปิดเฟซบุ๊ก เพื่อปล่อยเงินกู้จริง และได้วางแผนใช้โปรแกรมไลน์ชื่อสั่งซื้อสอบถาม หลอกขายหน้ากากอนามัย โดยจะนำบัญชีธนาคารของลูกหนี้เงินกู้ และ ซิมการ์ดโทรศัพท์ของลูกหนี้ หลอกให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว แล้วจะโอนเงินไปบัญชีบุคคลอื่นที่ตนเองมีอยู่อีก 2 บัญชี แล้วจึงถอนเงินออกมาเพื่อพรางตนเอง แล้วจะปิดไลน์หนีหรือเปลี่ยนไลน์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกจับกุมในวันนี้
ภาพจากอีจัน
ขณะจับกุมพบบัญชีธนาคาร,บัตรATM และซิมการ์ดโทรศัพท์ของบุคคลอื่น ในห้องพักน.ส.ศิริพร หลายบัญชีและมีสินค้าที่ขายออนไลน์อื่นวางกองระเกะระกะอยู่เต็มห้องสภาพเชื้อราขึ้น ซึ่งน.ส.ศิริพร จะใช้ชื่อในการรับส่งสินค้าเป็นชื่อบุคคลอื่นเพื่อไม่ให้ติดตามถึงตนเองได้
และรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง