พม. เผย รับน้องอิ่มบุญเข้าดูแล ก่อนแพทย์พบสารกัดกร่อนในปาก

อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เผย รับน้องอิ่มบุญเข้าดูแล หลังแพทย์สงสัยพฤติกรรมแม่ พบสารกัดกร่อนในปาก คลายอาการน้องยิ้มเมื่อปี 62


จากกรณีหญิงสาววัย 29 ปี ใช้ชื่อว่า “แม่ปุ๊ก” นำตัวน้องอิ่ม ด.ช.วัย 2 ขวบ เข้ารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ โดย แม่ปุ๊ก แจ้งหมอว่า “ลูกชายแพ้ปลาหมึก” แต่หลังจากที่แพทย์ได้ตรวจอวัยวะภายใน พบว่า หลอดอาหาร และกระเพาะอาหารอักเสบรุนแรง มีแผลในปาก ลำไส้ และกระเพาะอาหาร สาเหตุเกิดจากการกลืนสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเข้าไป โดยแพทย์สงสัยในพฤติกรรมของแม่

ภาพจากอีจัน
สืบเนื่องจาก เมื่อปี 62 “แม่ปุ๊ก” ได้พาลูกสาวชื่อน้องยิ้ม มานอนรักษาตัว อยู่ ร.พ.ธรรมศาสตร์ ซึ่งมีอาการอาเจียน และโรครุมเร้า ซึ่งปัจจุบันนี้น้องยิ้มได้เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ “แม่ปุ๊ก” ยังมีการโพสต์ขายกระเป๋าผ้า เพื่อนำเงินมารักษาอาการน้องยิ้ม แต่หลังจากที่ได้รับเงินไปแล้ว กลับไม่มีการส่งของให้ลูกค้า พร้อมทั้งปิดเฟซบุ๊กและช่องทางการติดต่อ จนกระทั้งตำรวจกองปราบเข้าจับกุมตัวเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา
ภาพจากอีจัน

ล่าสุดวันนี้ (22 พ.ค. 63) นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ขอให้ศาลสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เนื่องจากเด็กอาจได้รับอันตรายหากอยู่ในความดูแลของมารดา โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 37 โดยการประสานส่งตัวเด็กเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพจากอีจัน
ส่วนแม่เด็ก (แม่ปุ๊ก) กองปราบปราม ได้ออกหมายจับคดีฉ้อโกง และ ทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัส โดยปัจจุบันถูกฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม และคัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้ ทีมสหวิชาชีพมีข้อสงสัยว่า เด็กทั้ง 2 คน อาจจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ เนื่องจากกรณีน้องยิ้ม กองปราบสืบทราบว่า ในใบเกิดชื่อพ่อและชื่อแม่เป็นบุคคลอื่น ส่วนน้องอิ่ม มีการแจ้งเกิดชื่อแม่ แต่ไม่มีการฝากท้องพร้อมกับชื่อพ่อไม่ปรากฏ ซึ่งหมอขอให้ตรวจดีเอ็นเอแต่แม่ปุ๊กไม่ยอม จึงต้องขออำนาจศาลให้ตรวจ”ดีเอ็นเอ” อีกทั้งยังพบว่าแม่ปุ๊กมีการเปลี่ยนชื่อถึง 4 ครั้งอย่างไรก็ตามประเด็นสงสัยเรื่องการวางยาลูกเพื่อขอรับเงินบริจาค ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดเกี่ยวกับประเด็นนี้ ซึ่งต้องรอสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายต่อไปต่อไป