เปิดไทม์ไลน์ฆ่าสองศพยัดถุงพลาสติกทิ้งสวนมะม่วง

เผยไทม์ไลน์สุดโหด ฆ่าสองศพยัดถุงพลาสติกทิ้งสวนมะม่วง ตำรวจพุ่งเป้าปมหึงหวง รู้ตัวผู้ต้องสงสัยเตรียมขอศาลออกหมายจับ

ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหดนางสาวกมลทิพย์ สบกระสิบ อายุ 41 ปี และ นายเจริญ มณี อายุ 50 ปี ยัดถุงพลาสติกทิ้งในสวนมะม่วง ภายในบ้านหรูของนางสาวกมลทิพย์ ที่ ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยพบศพเมื่อช่วงเย็นวานนี้(26 พ.ค. 63)

ภาพจากอีจัน
ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 26 พ.ค. 63) พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยชุดสืบสวนภูธรจังหวัด และ สภ.แม่แตง เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยจุดที่พบศพเป็นสวนมะม่วงข้างบ้าน ในพื้นที่มากกว่า 3 ไร่ ยังมีถุงพลาสติกสีขาวที่ใช้ห่อศพของนางสาวกมลทิพย์วางอยู่ และพบร่องรอยคราบเลือดในจุดทิ้งศพ ขณะเดียวกันได้สอบสวนปากคำ นางปราณี สบกระสิบ อายุ 64 ปี มารดาของนางสาวกมลทิพย์และญาติ ๆ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
ภาพจากอีจัน
จากการสอบสวน นางปราณี ให้การว่า ลูกสาวเคยแต่งงานและมีลูกชาย 1 คน และได้เลิกรากับสามีมานานกว่า 10 ปี ช่วงหลังได้แยกตัวออกมาสร้างบ้านอยู่ ห่างจากบ้านของตนเองประมาณ 30 เมตร ก่อนพบว่าเสียชีวิตทราบว่าในช่วงเช้าวันที่ 23 พ.ค. 63 นายไข่ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ผู้ต้องสงสัย อายุประมาณ 42 ปี ที่มาติดพันกับลูกสาวนานประมาณ 1 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้าน เอาผลไม้มาเซ่นไหว้แก้บนเจ้าที่ในบ้าน จากนั้นได้กลับออกไป ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. นายไข่ได้ขับรถกระบะกลับเข้ามาที่บ้านอีกครั้ง ขณะนั้นตนอยู่กับลูกสาว และตนเองได้เป็นคนกดรีโมทเปิดประตูให้เข้ามา จากนั้นทั้งคู่ได้พูดคุยกันจนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. เริ่มมีปากเสียงทะเลาะกัน ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงขอกตัวกลับบ้านที่อยู่ห่างไปประมาณ 30 เมตร จากนั้นก็ไม่ทราบเหตุการณ์อะไร จนกระทั่งเช้าวันที่ 24 พ.ค. 63 ตนเองได้ไปที่บ้านลูกสาวที่บ้านตามปกติ แต่เห็นบ้านเงียบ คิดว่าไม่อยู่จึงกลับออกไป กระทั่งวันที่ 25 พ.ค. 63 ลูกชายของนางสาวกมลทิพย์ ได้เข้ามาหาที่บ้าน เพราะปกติจะโทรศัพท์พูดคุยกับแม่ทุกวัน แต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ ผิดปกติ จึงมาตามหาที่บ้านและพบว่าเสียชีวิต
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ส่วน นายเจริญ ที่พบเป็นศพนอนข้างกัน เป็นเพื่อนของบิดานางสาวกมลทิพย์ ที่แวะเวียนมาดูแลความเป็นอยู่ หลังได้รับการฝากฝังจากบิดาของนางสาวกมลทิพย์ที่ต้องโทษติดคุกในคดียาเสพติด

พ.ต.อ.สุคนธ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ประชุมทีมสืบสวนเริ่มต้นการติดตามจับกุมคนร้าย เชื่อว่าเวลาเกิดเหตุจะเป็นช่วงเวลาหลัง 21.55 น. วันที่ 24 พ.ค. 63 ซึ่งตรวจสอบพบว่าหลัง 21.00 น. โทรศัพท์ของนางสาวกมลทิพย์ถูกปิดติดต่อไม่ได้ ส่วนนายเจริญเชื่อว่าจะเสียชีวิตภายหลัง โดยพบวัตถุพยานที่ระบุว่าในเวลา 05.01 น. ยังติดต่อได้อยู่ และพบว่านายเจริญได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้าน โดยมีรถกระบะของนายไข่จอดอยู่ในบ้าน ในตอนนี้ต้องรอแพทย์ยืนยันเวลาการเสียชีวิตของทั้งคู่ว่าต่างกันหรือไม่อย่างไร แต่ที่เหมือนกันก็คือทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ท้ายทอยคนละ 1 นัด

จากข้อมูลที่ได้มาขณะนี้ พ.ต.อ.สุคนธ์ คาดว่า คนร้ายจะลงมือก่อเหตุฆ่านางสาวกมลทิพย์ก่อน หลังจากนั้นได้โทรศัพท์หรือแชทลวงให้นายเจริญมาหาที่บ้านแล้วฆ่าทิ้งเป็นรายที่สอง ส่วนแรงจูงใจตั้งไว้สองประเด็นคือ ชู้สาว และ ยาเสพติด แต่ให้น้ำหนักเรื่องชู้สาว เพราะทราบว่าผู้ต้องสงสัยมีนิสัยอารมณ์ร้อน อาจหึงหวงคิดว่านางสาวกมลทิพย์กับนายเจริญแอบคบหากัน ชุดสืบสวนยังได้เรียกพยานบุคคลมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก 6 ปาก เพื่อรวมรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นที่ยังต้องหาข้อมูลเพิ่มว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ขณะที่มารดาของนางสาวกมลทิพย์มั่นใจว่าลูกสาวจะไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แม้ว่าบิดาจะถูกตัดสินจำคุกในคดียาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด และตอนนี้ยังติดคุกอยู่

มีรายงานว่าวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ได้เข้าพบกับมารดาของนางสาวกมลทิพย์เพื่อแจ้งสิทธิ์เงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าเสียหาย และค่าชดเชยแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา

และเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้(26 พ.ค. 63) พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันข้อมูล ยังไม่มีการจับกุมหรือควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ แต่ชุดสืบสวนได้ตามไปตรวจค้นที่บ้านของผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ ต.อินทขิล อ.แม่แตง พบจดหมายเขียนสั่งเสียไว้ บอกกับภรรยา 2 คน ให้แบ่งเงินเก็บที่มีอยู่และทรัพย์สินอื่น ๆ ให้กับภรรยาและลูก พร้อมบอกในจดหมายด้วยว่า “ อย่ามายุ่งกับคนมีเจ้าของ” ซึ่งจดหมายดังกล่าว บ่งชี้ค่อนข้างชัดเจนถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ขณะนี้ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับจากศาล