คุมตัวมือฆ่าสองศพทำแผนฯ สารภาพช้ำใจหญิงตีตัวออกห่าง

ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก พร้อมคุมตัวไอ้ไข่ มือฆ่าสองศพทำแผนฯ เผยแชทเรียกเหยื่อทั้งคืนก่อนหลงเชื่อมาให้ฆ่า!

ช่วงเช้าวันนี้ ( 27 พ.ค. ) ตำรวจ สภ.แม่แตง พร้อมด้วยตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ คุมตัวนายวสันต์ อินทรจักร์ หรือ ไข่ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่านางสาวกมลทิพย์ สบกระสิบ อายุ 40 ปี และ นายเจริญ มะณี อายุ 50 ปี ด้วยการใช้อาวุธปืนจ่อยิงก่อนนำศพทั้งสองใส่ถุงขยะ ทิ้งไว้ในสวนมะม่วงข้างบ้าน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้าน หมู่ 6 ต.สบเปิง อ.แม่แตง บ้านของนางกมลทิพย์ที่เป็นจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านนับร้อยคนที่ไปช่วยจัดงานศพและรอสาปแช่งคนร้าย ญาติของนางกมลทิพย์ใม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพทำข่าวภายในบ้าน เนื่องจากไม่พอใจที่บางสื่อเสนอข่าวบิดเบือนความจริง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจกว่า 20 นาย เริ่มจากจุดฆ่านางสาวกมลทิพย์บริเวณโต๊ะโรงครัวข้างบ้าน , จุดที่พยายามนำศพนางสาวกมลทิพย์ขึ้นรถยนต์หวังนำร่างไปทิ้ง , จุดที่ลวงนายเจริญมาจ่อยิงที่ประตูบ้าน และ บริเวณสวนมะม่วงข้างบ้านจุดทิ้งศพ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นนายไข่ได้ไปกราบขอขมาศพของนางกมลทิพย์ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลภายในบริเวณบ้าน ซึ่งจุดนี้ญาติไม่พอใจรุมทำร้าย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องแยกตัวญาติออกไปและทำตัวนายไข่ขึ้นรถตู้กลับโรงพักทันที ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้าน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุชุดสืบสวน สภ.แม่แตง และ สืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ออกปูพรมตามล่าตัวและเข้าตรวจค้นหลายจุดที่เชื่อมโยง จนทำให้พบจดหมายที่บ้านพักของนายไข่ ที่เขียนระบายความรู้สึกและสั่งเสียแบ่งทรัพย์สินให้คนในครอบครัว กระทั่งช่วงเย็นวานนี้ ( 26 พ.ค.) ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สืบทราบว่านายไข่หลบหนีไปที่วัดถ้ำบุนนาค อ.เชียงดาว จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด จากการสอบสวนนายไข่สารภาพว่าลงมือไปเพราะหึงหวงนางสาวกมลทิพย์ที่ตีตัวออกห่าง โดยใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงนางสาวกมลทิพย์ในระหว่างที่ทะเลาะกันบริเวณโรงครัวดข้างบ้านในเวลาเกือบ 23.00 น. วันที่ 23 พ.ค. หลังจากนั้นพยายามนำศพขึ้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ของนางสาวกมลทิพย์หวังนำศพไปทิ้งแต่ไม่สำเร็จ จึงนำศพใส่ถุงพลาสติกทิ้งในสวนม่วง จากนั้นได้ใช้โทรศัพท์ของนางสาวกมลทิพย์ แชทไลน์ลวงให้นายเจริญมาหาที่บ้าน โดยแชทไปหาหลายครั้งเกือบทุกชั่วโมง จนเกือบรุ่งเช้านายเจริญหลงเชื่อขับรถกระบะมาหาที่บ้าน โดยมีหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดขณะขับผ่านด่านโควิดก่อนถึงบ้านที่เกิดเหตุ ประมาณ 100 เมตร ในเวลา 05.01 น. วันที่ 24 พ.ค.
ภาพจากอีจัน
เมื่อไปถึงบ้านนายเจริญได้เดินขึ้นไปเปิดประตูบ้าน และ นายไข่ที่ซ่อนตัวในบ้านได้ใช้อาวธปืนจ่อยิงที่ท้ายทอยของนายเจริญ ในจังหวะที่นายเจริญหันหลังเพื่อดึงประตูปิดก่อนจะลากศพไปทิ้งไว้ข้างศพของนางสาวกมลทิพย์และใช้สายยางฉีดล้างคราบเลือด พ.ต.อ.สุคนธ์ กล่าวว่า หลังก่อเหตุนายไข่ตั้งใจฆ่าตัวตายและได้เขียนจดหมายลายตายทิ้งไว้ บอกให้ทำศพสองวันแล้วเผา แต่บังเอิญเห็นภาพถ่ายของบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว จึงเปลี่ยนใจจะไปบวชเพื่อไถ่บาปและบวชให้บิดา แต่ยังไม่ทันได้บวชถูกตำรวจตามจับกุมได้ก่อน คดีนี้ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ( ฆ่านางกมลทิพย์) , ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ( ฆ่านายเจริญ) , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธและเครื่องกระสุในหมู่บ้านและที่สาธารณะ และ ข้อหาปกปิดอำพรางซ่อนเร้นศพ ส่งตัวดำเนินคดี
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน