นักธุรกิจชาวจีน หอบหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดนักแสดงสาว ฐานฉ้อโกง

เป็นเรื่องเป็นราวต้องขึ้นโรงพักกันเลยทีเดียว เมื่อ นายซู่ เว่ย นักธุรกิจชาวจีน พร้อมด้วย นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ รองต่อ ผู้รับมอบอำนาจจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นักแสดง และนักธุรกิจที่ร่วมกันกับพวกแอบอ้างนักการเมืองระดับรัฐมนตรีชื่อดังในปัจจุบันนี้ รวมทั้งเชื้อพระวงศ์และเจ้าหน้าที่รัฐระดับอธิบดี กรณีหลอกลวงเงินผู้เสียหายสูญเงินนับล้านบาท ว่าสามารถเคลียร์นำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด 19 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยรองต่อ เล่าให้ฟังว่า "นายซู่ เว่ย กังวลว่าสินค้าจะถูกยึดและไม่ได้คืน ก็เลยไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นคนไทย และได้รู้จักกับ กันต์ ซึ่งพูดภาษาจีนได้ และกันต์ได้แนะนำให้รู้จักกับนักแสดงคนดังกล่าว และสามารถติดต่อกับนักการเมืองระดับรัฐมนตรี เชื้อพระวงศ์ เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง เพื่อจัดการนำสินค้าออกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่จะต้องจ่ายเงิน 2.5 ล้านบาท

โดยในครั้งแรก นายซู่ เว่ย หาเงินได้ 1.5 ล้าน และได้ทำการโอนเข้าบัญชีของนักแสดงสาว หลังจากนั้นนายซู่ เว่ย ได้รอฟังข่าวจากนายกันต์และนักแสดงสาว แต่ทั้งสองอ้างว่ากำลังดำเนินการอยู่ ต่อมานายกันต์ติดต่อมาว่าสินค้าที่ถูกยึดพร้อมจะนำออกแล้ว แต่ต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลือ 1 ล้านบาท ซึ่งนายซู่ เว่ย แจ้งว่าหามาได้แค่ 5 แสนบาทและได้โอนเข้าบัญชีเดิมของนักแสดงสาว พอโอนเงินเสร็จ นายซู่ เว่ย ได้พยายามติดต่อทั้งคู่ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงตลอด นายซู่ เว่ย ได้ปรึกษานายกฤษณพล เพื่อนคนไทยของตน เชื่อว่าตนเองจะถูกหลอก นายกฤษณพลก็เลยแนะนำให้รู้จักผู้ใหญ่ที่นับถือ รองต่อ สันธนะ ประยูรรัตน์ ซึ่งนายซู่ เว่ย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้รองต่อฟัง จากนั้นก็ได้ทำหนังสือมอบอำนาจพร้อมมอบเอกสาร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยงานที่เกิดขึ้น

ต่อมารองต่อได้แจ้งให้ทราบว่าได้ดำเนินการตามระเบียบราชการนำสินค้าออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าดำเนินการ หรือค่าตอบแทนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดเลย จากนั้นทั้งสามคนได้ไปที่คอนโดนักแสดงสาว เพื่อทวงเงินคือโดยไม่บอกให้ทราบว่าได้นำของออกมาแล้ว ซึ่งทางนักแสดง และนายกันต์บอกว่าผู้ใหญ่กำลังดำเนินการให้อยู่ พร้อมอ้างว่าได้จ่ายเงินให้กับอธิบดีกรมศุลกากรไปแล้ว 500,000 บาท และจ่ายให้กับหม่อมเฟม 500,000 บาท และอีก 100,000 บาท ได้มอบให้กับเจ๊กานต์ เพื่อจ่ายให้กับนักการเมืองระดัรัฐมนตรีที่สั่งการเรื่องนี้ โดยเจ๊กานต์ได้บอกว่าจะดำเนินการนำสินค้าออกมาให้ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 แต่พอถึงวันนักทั้งไฮโซน้ำแข็งกับนายกันต์ไม่ยอมรับโทรศัพท์

นายซู่ เว่ย จึงได้มอบอำนาจให้รองต่อ เป็นผู้กล่าวหาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนักแสดงคนดังกล่าว , นายกันต์ และเจ๊กานต์ บุคคลใกที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยเจตนาทุจริตหลอกลวง ด้วยการปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งชัด และมีเจตนาทุจริตมาตั้งแต่ต้น ทำให้นายซู่เว้ย ได้รับความเสียหาย