รวบยกแก๊ง ขนยาบ้า 14 ล้านเม็ด เข้า อ.ฝาง

รวบขบวนการค้ายารายสำคัญ ขนยาบ้า 14 ล้านเม็ด มาขายใน ฝาง

ภาพจากอีจัน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า มีการจับกุม ขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่ สภ.ฝาง จว.เชียงใหม่
โดย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.ฝาง ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการขนยาเสพติดลงไปในพื้นที่ตอนล่าง
ต่อมาวันที่ 29 พ.ค. 2563 เวลาประมาณ 18.00 น. ชุดจับกุมได้รับการแจ้งสายลับว่าจะรถกระบะบรรทุกกำลังเดินทางไปยังพื้นที่ อ.ฝาง เพื่อจะมาขนยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในพื้นที่
จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.10 น. เข้าสู่วันที่ 30 พ.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบรถกระบะบรรทุกตามที่สายลับแจ้ง บริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองฝาง จึงได้ติดตามรถคันกล่าวไป
รถยนต์คันดังกล่าวเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.สันทราย อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตาม และประสานกับเจ้าของโรงแรม จนทราบว่าเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว เป็นผู้หญิงมาเช่าพักอยู่

จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบในห้องพัก พบ น.ส.ณิศมน อยู่ภายในห้อง
จากการสอบถามเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าวจริง โดยมีนายสุทัศน์ หรือ อ้วน และ นายยอดรัก ขับรถนำทาง ซึ่งพักอยู่ห้องข้างกัน
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ พบ นายอ้วน และนายยอดรัก อยู่ในห้อง
เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวทั้ง 3 คน มายังรถกะบะบรรทุกคันดังกล่าว เพื่อเปิดดูสิ่งของที่อยู่ภายในโครงหลังคาตู้ทึบ เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นยาบ้า จำนวน 77 กระสอบ ( ยาบ้าจำนวนประมาณ 14 ล้านเม็ด) เจ้าหน้าที่ จึงได้เชิญตัวทั้งสามคนพร้อมของกลางมายัง สภ.ฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยอีกว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจะดำเนินการตามขั้นตอนขแงกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะฉวยโอกาส หาช่องว่างกระทำความผิดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด -19 รวมถึงผู้ที่มีการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกนอกเคหะสถานโดยไม่มีเหตุอันควร หรือ รวมกลุ่ม ชุมนุม มั่วสุม ในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อฯ หากมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยไม่มียกเว้น