ญี่ปุ่น เตรียมเปิดให้คนไทยเข้าประเทศ ต้นเดือน ก.ค. นี้

ข่าวดี! ญี่ปุ่น เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เข้าประเทศได้ต้นเดือน ก.ค. นี้ หลังการแบนวีซ่าจะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.

31 พ.ค. 2563 หนังสือพิมพ์โยมิอูริของญี่ปุ่น  รายงานว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศ โดยทางญี่ปุ่นจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากประเทศไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เดินทางเข้าประเทศได้ หลังพบว่าทั้ง 4 ประเทศ มีมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ดี ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะพิจารณาให้ทั้ง 4 ประเทศ เข้าประเทศได้อย่างเร็วสุดต้นเดือน ก.ค. นี้ หลังการแบนวีซ่าจะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.

ภาพจากอีจัน

รายงานจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ระบุด้วยว่า รัฐบาลอาจจะเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดโดยเปิดให้มีการเดินทางอย่างเร็วที่สุดในช่วงฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาจะต้องถือเอกสารรับรองว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 จากประเทศต้นทาง และจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งเมื่อมาถึงญี่ปุ่น แต่ยังคงห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ เนื่องจากพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ภาพจากอีจัน
นายกรัฐมนตรีชินโซอาเบะนายกรัฐมนตรียังคงระมัดระวังต่อการชะลอตัวของข้อ จำกัด ในเวลาไม่นานในประเทศจีนเนื่องจากการเปิดใหม่ก่อนหน้านี้อาจทำให้เกิดการรุกย้อนกลับจากสหรัฐฯซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการโรคของจีน ญี่ปุ่นยังระมัดระวังเกี่ยวกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ภาพจากอีจัน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากสัญญาณว่าการติดเชื้อ coronavirus นวนิยายลดลงในประเทศเหล่านั้นหนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ภาพจากอีจัน
ประชาชนจาก 4 ชาติ ประกอบไปด้วย ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ สามารถเดินทางมายังญี่ปุ่นได้ ด้วยสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ที่ลดต่ำลงอย่างมาก
ภาพจากอีจัน
สื่อญี่ปุ่นระบุด้วยว่า การผ่อนคลายข้อจำกัดดังกล่าวอาจเริ่มต้นในช่วงฤดูร้อนนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เดินทางเข้ามาจาก 4 ชาติดังกล่าว จะต้องแสดงใบรับรองผลการทดสอบหาเชื้อโควิด-19 ว่า เป็นลบก่อนออกจากประเทศต้นทาง และจะต้องทดสอบหาเชื้ออีกครั้งเมื่อมาถึงญี่ปุ่น