เจ้าของหอขอพูดบ้าง หลังตกเป็นจำเลย ขนของในร้านผู้เช่าขายจนเกลี้ยง

หลังมีประเด็นดราม่า คุณก้อยเจ้าของร้านเสริมสวยขอความเป็นธรรม หลังค้างค่าเช่า 3 เดือน แต่ถูกเจ้าของหอพักขนของในร้านไปขายทั้งหมด ไม่เหลือแม้แต่เอกสารสำคัญ

ล่าสุดวันนี้ 6 มิ.ย.2563 เจ้าของหอพัก ป้าปุ้ย (นามสมมุติ) ได้เปิดใจกับทางอีจันถึงประเด็นดังกล่าวว่า คุณก้อยเจ้าของร้านเสริมสวยได้ค้างค่าเช้าป้าตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 ที่ผ่านมาหากไม่มีก็ขอแค่บอก ก็ยินดีจะให้ผ่อน
แต่หลังจากคุณก้อยกลับไปอยู่ที่บ้าน บอกกลับป้าว่าจะกลับแค่ 2-3 วัน แต่พอเวลาล่วงเลยไปก็ไม่ติดต่อมา จะขอผ่อนป้าก็ยอมแต่กลับเงียบไป อีกทั้งหน้าร้านยังมีมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อก มาวนเวียนอยู่บ่อยๆ ป้าจึงกลัวหวั่นว่าจะเป็นอันตราย จึงให้คนเอากุญแจไปล็อกร้านไว้
มาถึงวันที่ 5 เม.ย.63 ครบกำหนดวันที่ต้องจ่ายค่าเช่า แต่ทางนั้นยังเฉย พอโทรไปคุยกันทางไลน์ก็ยังพอผลัดเรื่อยๆ บอกให้ส่งเลขบัญชีให้แต่ก็ยังไม่จ่ายสักที

ระหว่างนั้นมอเตอร์ไซค์แปลกหน้าก็ยังมาวนเวียนอยู่ตลอด พร้อมทั้งมีคนสนใจที่จะมาเช้าห้อง แต่ตนก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ ก็รอทางนั้นติดต่อมา
จนวันที่ 9 เม.ย. 63 ทางคุณก้อยติดต่อมาแต่ป้าก็ตอบกลับไปว่า ช้าไปแล้ว เพราะขายของในร้านไปหมดแล้ว แต่ทางสามีของคุณก้อยก็พูดมาบอกว่าจะเอาเรื่องป้า ป้ายืนยันว่าวันนั้นของยังอยู่ในร้านนครบ ยังไม่ได้ขนย้ายหรือขายไปไหน พอเวลาผ่านไปป้าปุ้ยจึงตัดสินใจบอกไปว่า ให้เอาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่ค้างอยู่แล้วจะคืนของให้ แต่ทางนั้นก็เงียบไปอีก
จนมาถึง 15 พ.ค.63 ป้าปุ้ยบอกว่าคอยเขาตลอด จนหมดความอดทน บวกกับตอนนั้นมีคนเข้ามาขอดูห้องแล้ว เพราะตนก็ลำบากเหมือนกัน เจอผลกระทบไม่ต่างกัน จึงตัดสินใจย้ายของออกมาข้างนอกเพื่อให้คนใหม่เข้าไปเช่า และไม่รู้ว่าของหายไปไหน เรื่องเอกสารสำคัญป้ายืนยันว่าไม่เจอตั้งแต่แรก และไม่ได้อยากใจร้ายแบบนี้ เข้าใจคนทำมาหากิน แต่ในเมื่อมันถึงที่สุดก็ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง

ซึ่งตอนนี้ทางคุณก้อยบอกมาว่าต้องการเงินชดเชยค่าของ ตนก็ยินดีที่จะจ่ายให้ เท่าไหร่ หักลบลบหนี้กันไปตามความเป็นจริง ตอนนี้สังคมโจมตีอย่างมาก ยอมรับเครียดเหมือนกัน อยากให้เข้าใจในฝั่งนี้บ้าง ก่อนคุณป้าจะบอกว่า ทุกอย่างมันคุยกันได้ แค่เข้ามาคุยกันป้าก็รักเขา ยอมรับว่าใจร้อนมากไปหน่อย แต่ขอแค่เข้ามาคุยกันหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่แบบนี้