ป.ป.ส. แจง เปิดบรรยายเรื่องกัญชาทำได้ ถ้าเป็นแบบวิชาการ

เลขาธิการ ป.ป.ส. ชี้แจง เปิดบรรยายเรื่องกัญชาทำได้ แต่ห้ามชักชวนให้ใช้หรือปลูก

หลังจากที่ช่วงนี้ เริ่มมีกลุ่มหรือองค์กรต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชน กลับมาจัดบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา ซึ่งมีทั้งรูปแบบต้องเสียและไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับคำถามจากประชาชนผ่านสายด่วน 1386 เกี่ยวกับเรื่องการเปิดบรรยายหรือสอนเรื่องกัญชา การนำต้นกัญชา น้ำมัน หรือสารสกัดกัญชา รวมถึงผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดที่มีส่วนผสมกัญชามาสาธิตหรือวางจำหน่ายทำได้หรือไม่นั้น

ภาพจากอีจัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (8 มิถุนายน 2563) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา หากเป็นการบรรยายเชิงวิชาการก็สามารถทำได้ แต่ผู้บรรยายต้องเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับกัญชาในทุกมิติอย่างแท้จริง และต้องตระหนักว่ากัญชายังเป็นยาเสพติดให้โทษ เพื่อไม่ให้ผู้รับฟังบรรยายมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและไปกระทำผิดกฎหมาย
ภาพจากอีจัน
สำหรับการนำต้นกัญชา น้ำมัน หรือสารสกัดกัญชา รวมถึงผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดที่มีส่วนผสมกัญชามาสาธิตหรือวางจำหน่ายนั้น หากไม่มีการขอและได้รับอนุญาตจากสำนักงาน อย. ก็ไม่สามารถทำได้เพราะถือเป็นความผิด ส่วนจะเป็นความผิดในฐานใด เช่น ผลิต นำเข้า จำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่ายก็ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์


ดังนั้นผู้ประสงค์จะนำส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของกัญชา รวมถึงสารสกัดและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชามาด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น

เลขาธิการ ป.ป.ส. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากการรวบรวมข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. (ศปก.ปปส.) พบว่า นับแต่กฎหมายผ่อนปรนให้มีการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ถึงปัจจุบัน มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับกัญชาที่เป็นไปอย่างเปิดเผยทั้งในรูปแบบการบรรยายให้ความรู้ การอบรม การประชุมสัมมนา และการจัดนิทรรศการ รวม 134 ครั้ง ใน 43 จังหวัด โดยถูกจัดขึ้นในกรุงเทพมหานครมากที่สุด 32 ครั้ง เป็นการจัดขึ้นโดยหน่วยงานภาครัฐ 57 ครั้ง เอกชน 66 ครั้ง และจัดร่วมกัน 11 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ มีบางครั้งที่มีการกระทำที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย

ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้พบว่า บางส่วนมีการจัดกันในรูปแบบปกปิด จำกัดเฉพาะกลุ่ม คัดเลือกผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเข้มงวด ซึ่งจากการซักถามผู้ถูกจับในความผิดเกี่ยวกับกัญชาโดยเฉพาะในข้อหาผลิต (ปลูก) หรือครอบครองหลายราย ปรากฏว่าได้เคยผ่านการอบรม หรือรับฟังบรรยาย ทำให้เข้าใจว่าตนสามารถปลูก ครอบครอง หรือเสพกัญชาได้ จึงกลับมาดำเนินการจนกระทั่งถูกจับ นายนิยม ย้ำในตอนท้ายว่า การจัดอบรมหรือบรรยายเกี่ยวกับกัญชาหรือพืชเสพติดประเภทใดก็ตาม ต้องเป็นไปตามหลักวิชาการและมีเจตนาเพื่อประโยชน์ในทางการศึกษา สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน
ภาพจากอีจัน
ส่วนการจัดเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางธุรกิจหากเป็นไปตามกรอบของกฎหมายคงไม่สามารถจำกัดได้ แต่ก็ต้องไม่เป็นการยุยง ส่งเสริมให้มีการกระทำใดๆ อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายหรือต้องไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าสามารถเสพ ครอบครอง หรือปลูกกัญชาได้อย่างเสรี รวมถึงต้องไม่มีการนำพืชเสพติดไม่ว่าจะเป็นเมล็ด ใบ ต้น หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชเสพติดมาแสดงหรือจำหน่ายโดยไม่ผ่านการอนุญาตของสำนักงาน อย. เนื่องจากขณะนี้พืชเสพติดทุกชนิดยังเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 การผลิต นำเข้า ครอบครอง จำหน่าย เสพถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งแม้แต่สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับสถาบันทางวิชาการดำเนินการศึกษาวิจัย ก็ต้องทำการขออนุญาตเช่นกัน