จับแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงข้ามชาติ อ้างรับออร์เดอร์มาจากฝั่งกัมพูชา

จับไม่หมดสักทีพวกลอบตัดไม้! รวบแก๊งตัดไม้พะยูง อ้างข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของประเทศกัมพูชาบงการ?

เจ้าหน้าที่ ขสป.ห้วยศาลา ทหารและฝ่ายปกครอง พบชายฉกรรจ์ 4 คน และหญิงวัยกลางคน 1 คน กำลังขุดไม้พะยูง ขนาดความโต 2.7 ม. สูง 20 ม. ในพื้นที่ ขสป.ห้วยศาลา จึงเข้าจับกุม นอกจากนี้ห่างจากจุดเกิดเหตุ ไม่กี่เมตร ยังพบรถเครนพร้อมคนขับจำนวน 1 คน พร้อมที่จะขนย้ายไม้ออกจากพื้นที่ และพบรถยนต์ 2 คัน 1 ใน 2 คัน เต็มไปด้วยอุปกรณ์การขุด อีก 1 คัน พบผู้ต้องสงสัยอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว จำนวน 2 คน เป็นชาวกัมพูชา คาดว่าน่าเป็นผู้ว่าจ้าง และควบคุมการขนย้ายไม้ในครัังนี้ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่​ 12​ พฤษภาคม​ 2563​ เวลา​ประมาณ​ 16.30 น.​

ภาพจากอีจัน

ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้มีทั้งหมด 8 คน ดังนี้

1. นายนิรัตน์ ทองใบ ชาว จ.สุรินทร์ อ้างว่า นายจ้างชาวกัมพูชา เป็นผู้ว่าจ้างให้มาขนย้ายไม้ล้อมออกจากพื้นที่
2. นายสมพงษ์ บุญยงค์
3. นายแสงทอง แก้วคำ
4. นายสมสมาน ศรีบุญเรือง
5. นายแหวน วงพินิจ
6. นายสัมฤทธิ์ เจียวตั้ง ชาวสระแก้ว อ้างเป็นคนขับรถให้ นายสาริน ชาวกัมพูชา
7. นางสาวอัจฉราภรณ์ บุญนำพา ชาวกรุงเทพ ผู้ควบคุมการขุด พร้อมอ้างเป็นภรรยาของนายสาริน
8. นายสาริน ชาวกัมพูชา อ้างว่ารับออร์เดอร์ไม้ มาจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของประเทศกัมพูชา หาไม้ถูกกฎหมายในไทย เพื่อนำไปส่งบริเวณชายแดนอรัญประเทศ

ภาพจากอีจัน

เบื้องต้น จากการสอบสวน นางสาวอัจฉราภรณ์ และนายสาริน ปฏิเสธไม่ทราบว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย ด้วยมีชายชาว จ.สระแก้ว เป็นผู้ติดต่อให้มาล้อมไม้ โดยให้พาพวกมาอีก 3 คน อ้างว่า อยู่อยุธยาเป็นเจ้าของที่ดินแปลงต้นพะยูงดังกล่าว

ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ ผอ.ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สบอ.9 ได้ลงพื้นที่สอบสวนด้วยตนเอง ซึ่งต่อมา 2 สามี ภรรยา รับว่าซื้อไม้พะยูง ต้นดังกล่าวในราคา 2 แสนบาท พร้อมให้เงินชายชาว จ.สระแก้ว ไปกว่า 1 แสน 5 หมื่นบาท พร้อมค่าน้ำมันเดินทาง 1 หมื่นบาท เพื่อนำเงินไปจัดการให้ข้าราชการในพื้นที่เป็นค่าเปิดทางในการนำไม้เพื่อการเคลื่อนย้ายไม้ได้สะดวก ไม่ติดขัด ในการซื้อขายต้นพะยูต้นนี้ราคารวมทั้งสิ้น 360,000 บาท
ภาพจากอีจัน

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกแจ้งขอกล่าวหา กระทำผิด ดังนี้
1. พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.11 ฐานร่วมกันทำไม้
2. พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ม.53 ม.55(5)
และได้ยึดของการกระทำความผิด 27 รายการ ประมาณการความเสียหายทางแพ่ง มากกว่า 2 ล้านสามแสนบาท ก่อนนำตัวผู้กระทำผิดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ดำเนินตามกฎหมายต่อไป