ศาลสั่งจำคุก 1,446 ปี 2 กรรมการ “เเหลมเกตุซีฟู๊ด ปมหลอกขายบุฟเฟ่ต์

จบสักทีมหากาพย์หลอกขายบุฟเฟ่ต์! ศาลอาญาจำคุก 1,446 ปี 2 กรรมการ “เเหลมเกตุซีฟู้ด” หลังเปิดโปรบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดสุดถูก” เเต่กลับยกเลิก และเฉิดเงินลูกค้าหนี

ยังจำกันได้รึเปล่า “ แหลมเกตุซีฟู้ด” ชื่อนี้ดังกระฉ่อน หลังมีการออกโปรโมชั่นจำหน่ายบัตรรับประทานบุฟเฟ่ต์ ราคาถูกให้กับลูกค้าจำนวนมาก แต่กลับมีปัญหาสารพัดและอาหารก็ด้อยคุณภาพลง ต่อมาทางร้านได้ประกาศปิดตัวลง แต่ไม่คืนเงินให้กับลูกค้า จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก

ภาพจากอีจัน

ล่าสุดวันนี้ 10 มิ.ย.63 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.2808/2562 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง บริษัท แหลมเกตอินฟินิท จำกัด ,นายอพิชาตหรือโจมบวรบัญชารักษ์หรือพารุณจุลกะ ,น.ส.ประภัสสร บวรบัญชาเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิด ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตามพรบ.คุ้มครองผู้บริโภค
, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 เเละ พรบ.คอมฯ

ภาพจากอีจัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561- 2562 นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท กับ น.ส.ประภัสสร ได้เปิดบริษัท แหลมเกตอินฟินิท และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิค ผ่านเฟซบุ๊ก และเว็บไซด์ของร้านชื่อ www.laemgate.net กับโปรแกรมแชทไลน์ Line:@laemgate ว่าจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่น และมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น “โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์” ขายเป็นชุดๆ ละ 880 บาท มี 10 ที่นั่งๆ ละ 88 บาท , “โปรนาทีทองมาแล้วจ้า” ขายเป็นชุดๆ ละ 2,020 บาท มี 20 ที่นั่งๆ ละ 101 บาท , “โปรแฟนพันธุ์แท้” ขายเป็นชุดๆ ละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่งๆ ละ 100 บาท และโปรโมชั่นหมีหมี เป็นต้น โดยลูกค้า ต้องจองคิววันที่จะเข้าไปทานอาหาร ผ่านทางระบบออนไลน์ของร้าน ซึ่งให้ผู้ที่สนใจโอนเงินเข้า บัญชี ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 0401759603 ชื่อ บัญชี บจก.แหลมเกต อินฟินิท จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนมาก
ภาพจากอีจัน
ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.62 ทางร้านอาหารแหลมเกต อินฟินิท ได้ประกาศทางโปรแกรมไลน์ และเฟซบุ๊ก ขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชั่น เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และเกินความคาดหมายทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการเพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกองคำรับสารภาพเเล้วพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341,83 พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522มาตรา 47,พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91ฐานเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณหรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จกับฐานหลอกลวงผู้อื่นโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341,83 จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดรวม 723 กระทงให้จำคุกจำเลยที่ 2,3ทุกกระทง กระทงละ 2ปีรวมจำคุกคนละ 1,446 ปีส่วนจำเลยที่ ๑ ให้ปรับกระทงละ 5,000บาทรวมปรับ 3,615,000บาทบาทจำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งทุกกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุกจำเลยที่ 2,3 คนละ 723 ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 2,3 คนละ 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(2)จำเลยที่ 1 คงปรับ 1,807,500 บาทหากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงินจำนวน 2,500,960 บาทเเก่เจ้าของ เงินได้มาโดยไม่สุจริต ได้มาจากการโกง-หลอกคนอื่น สุดท้ายก็ต้องปิดฉากชีวิตตัวเองด้วยกฎหมาย