ตำรวจตัดประเด็นชิงทรัพย์แหม่มยูเครน แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นสำคัญอื่น

คดีแหม่มยูเครนเริ่มชัด ตร.พบหลักฐานสำคัญ ที่อาจเป็นแรงจูงใจของการเสียชีวิต

ความคืบหน้าล่าสุด ของคดีแหม่มสาวยูเครน ที่ตายปริศนากลางป่าบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากที่เธอหายตัวไปเมื่อ 25 พ.ค.63 จนพบเป็นศพอีกครั้ง เมื่อ 7 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (11 มิ.ย.63) พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด เปิดเผยกับอีจัน ว่า จากประเด็นสงสัยที่ตั้งไว้ตอนเริ่มต้น 4 ประเด็น ได้แก่
1.ถูกฆาตกรรม เบื้องต้น ผลชันสูตรไม่พบร่องรอยบาดแผล ที่น่าเชื่อว่าจะเกิดจากการฆาตกรรม !
เนื่องจาก ไม่มีร่องรอยการถูกของแข็งกระแทก หรือร่องรอยของมีคม ไม่มีร่องรอยถูกเชือกรัด ถ้าหากมีการบีบคอ หรือขาดอากาศหายใจก็ไม่พบร่องรอยการหัก สรุปง่ายๆ คือ ตามร่างกาย ไม่พบร่องรอยกระดูกเเตก กระดูกหัก ทุกชิ้นส่วนของร่างกาย
2.ถูกล่วงละเมิด
3.เสียชีวิตจากสารเคมี
ซึ่งข้อ 2-3 ยังรอผลตรวจยืนยันที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากทางสถาบันนิติเวชอีกครั้งหนึ่ง
4.ปลิดชีพตัวเอง ในข้อนี้ พ.ต.อ.ยุทธนา กล่าวว่า นางโอล่า มีประวัติรักษาโรคไบโพลาร์ หรือภาวะซึมเศร้า ที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ มีการกินยาอยู่ตลอด และมีประวัติเคยทำร้ายตัวเอง
5. ชิงทรัพย์
ณ ตอนนี้ ได้ตัดประเด็นสงสัยเรื่องของการชิงทรัพย์ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย อยู่ในกระเป๋ากางเกงตัวที่ใส่ในวันพบศพ และช่วงเย็น วานนี้ (10 มิ.ย.63) สภ.บ่อผุด พบกระเป๋าเดินทางอีกใบของผู้ตาย
ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ผู้ตายนำไปฝากไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่เกาะสมุย ซึ่งสอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิด ของร้านเช่ารถ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.63 ที่จับภาพได้ว่าเธอมีกระเป๋ามา 2 ใบ ในขณะที่มาคืนรถจักรยานยนต์ที่เธอเป็นคนเช่าไว้ ตั้งแต่ 1 เม.ย.63 แต่เนื่องจากเธอไม่มีเงินจ่ายค่าปรับรถที่มีร่องรอยเฉี่ยวชนจำนวน 2,000 บาท เธอจึงบอกว่าจะกลับมาอีกครั้ง

ภาพจากอีจัน
1 ชั่วโมงให้หลัง กล้องวงจรปิดจับภาพได้ เธอมาพร้อมกระเป๋าสะพายหลังเพียงใบเดียว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าปรับอยู่ดี เธอต้องการพาสปอร์ตคืน แต่ทางร้านขอเก็บไว้ก่อน จากนั้น เธอจึงเดินไปในเส้นทางที่เชื่อมไปยังจุดเกิดเหตุในวันที่ 25 พ.ค.63 และไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้อีกเลย จนกระทั่ง 7 มิ.ย.63 ชาวบ้านมาพบว่า เธอกลายเป็นศพ ไปเสียแล้ว จากการตรวจสอบกระเป๋าที่พบใหม่นี้ ภายในมีทรัพย์สินอยู่ครบทั้งแล็ปท็อบ เสื้อผ้า ยารักษาภาวะอาการซึมเศร้า และไดอารี่
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ซึ่ง พ.ต.อ.ยุทธนา เสริมว่า นางโอล่าเริ่มป่วยควบคุมตนเองไม่ได้ เมื่อปี 2018 และยังสอบถามไปยัง รพ. เอกชน ที่นางโอล่ารักษาตัวอยู่ ถึงเรื่องของประวัติการรักษาอาการป่วยซึมเศร้า นอกจากนี้ ยังได้สอบถามแพทย์ถึงเรื่องของยารักษาภาวะอาการซึมเศร้านี้ หากกินปริมาณมากจะทำให้หลับลึก แล้วยานี้กินปริมาณเท่าใดถึงจะเป็นการได้รับยาเกินขนาด และทำให้ถึงแก่ความตายได้หรือไม่ ? จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ตาย เธอใช้เวลาในการเล่นสื่อโซเชียลแทบไม่ได้นอนหลับ
ภาพจากอีจัน
ส่วนสมุดไดอารี่ของเธอ ถูกเขียนด้วยภาษายูเครน ตำรวจได้ทำการแปลด้วยแอปพลิเคชั่นซึ่งยังไม่เป็นทางการ แต่ทำให้ทราบข้อมูลสำคัญ คือ เธอเคยฆ่าตัวตายมาแล้วถึง 3 ครั้ง ! จากข้อความในไดอารี่ของเธอ ได้เขียนไว้กว่า 119 หน้า ส่วนหนึ่งได้เขียนถึงวิธีการฆ่าตัวตาย และไม่อยากให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับการกระทำ รวมทั้งไม่ให้เห็นการกระทำ อยากหาที่สงบ ไม่ต้องการให้ใครเรียกรถพยาบาลมาช่วยเหลือ ตำรวจ คาด พฤติกรรมนี้ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอถึงแก่ชีวิต และใช้ทางมะพร้าวอำพรางศพตัวเองไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ส่งไดอารี่ให้ทางสถานทูตยูเครน ประจำประเทศไทย ดำเนินการให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา แปลข้อความจากภาษายูเครนพร้อมกับรับรอง เพื่อมาใช้ประกอบในสำนวนคดี ที่อาจเป็นแรงจูงใจเสริมจากอาการป่วยไบโพลาร์ และการเลิกลากับสามี ทำให้เธอไม่มีที่ไป หรือนี่จะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ แม้จะตัดประเด็นเรื่องของการชิงทรัพย์ไปแล้ว แต่ทางตำรวจยังไม่ตัดประเด็นการถูกฆาตกรรม รวมทั้งรอผลตรวจจากทางนิติเวชยืนยันอีกครั้ง เรื่องนี้คงต้องสืบหาความจริงกันต่อไป อ่านข่าวเก่าช็อก! แหม่มสาวยูเครน หายตัวปริศนา 14 วัน ก่อนพบเป็นศพ ถูกหมกกลางป่าเกาะสมุยผลชันสูตร แหม่มยูเครนออกแล้ว พบข้อมูลสำคัญ ที่อาจทำคดีพลิก!