ยิ่งรู้จักยิ่งประทับใจ ซูซี่ ณัฐวดี เจ้าแม่ลิปซิงค์-โคฟเว่อร์เเห่ง Tiktok

การเป็นคนผิวสีในสังคมไทย ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอผ่านมันมาได้ ทำความรู้จัก “ซูซี่ ณัฐวดีเจ้าแม่ลิปซิงค์-โคฟเว่อร์ Tiktok” เปยชีวิตหลากรส กับอาวุธที่เธอใช้สู้สังคมของการเหยียด

กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน สำหรับสาว ซูซี่ ณัฐวดี หลังเธอที่ลิปซิงค์-โคฟเว่อร์ แม่สิตางศุ์ ใน Tiktok จนเธอเป็นที่จนจำ เรียกได้ว่าโคฟเว่อร์ไหนๆ ก็ต้องยกให้เธอ เพราะจริตและความเป๊ะของเธอมันชัดมากกกก ทำให้คนกดติดตามเธอคนติดตามเธอหลักแสนเพียงไม่กี่วัน

ภาพจากอีจัน
พอจันเห็นปุ๊บ จันก็อยากรู้จักทันที เธอเป็นใคร มาจากไหน เธอเป็นชาวต่างชาติหรือเปล่า? ทำไมมีสกิลการโคฟเว่อร์ที่สูงขนาดนี้ และจันก็ได้คำตอบทั้งหมด หลังได้นั่งคุยกับเธอเพียงไม่กี่นาที ซูซี่ ณัฐวดี สาววัย 25 ปี ลูกครึ่ง ไทย-มาลี ที่เธอเกิดและโตที่เมืองไทย ใช้ชีวิตในประเทศไทยตั้งแต่เด็ก แน่นนอนหลายคนรู้เพราะด้วยหน้าตาและบุคลิกของเธอที่บ่งบอกชัดเจน ซูซี่ไม่ได้เป็นแค่สาวลูกครึ่งแต่เธอยังมีสามีเป็นชาว แอฟริกา และมีลูกชายลูกครึ่งวัย 3 ขวบที่น่ารักน่าชังที่สุด
ภาพจากอีจัน
เธอรับกับจันแมนๆ เธอไม่คิดว่าเธอจะเป็นที่รู้จัก และมีคนติดตามมากขนาดนี้ แถมบอกว่า TiKTok ก็เพิ่งมาเริ่มเล่น ส่วนแม่สิตางศุ์ตอนโคฟเว่อร์แรกๆ เธอยังไม่มีด้วยซ้ำว่าแม่สิตางศุ์เป็นใคร มารู้จักก็ตอนคลิปตัวเองเป็นกระแสไปแล้ว เรียกได้ว่าอยู่บ้านเลี้ยงลูกอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นคนของประชาชนเฉยเลย ไม่กี่นาทีที่จันนั่งคุยกับเธอ เธออารมณ์ดีและเริ่มเผยความเป็นตัวเองออกมาเรื่อยๆ ความเป็นตัวเองของเธอนั้นคือตรงแต่ไม่แรง เป็นกันเองและแซ่บที่สุด ที่แซ่บไม่แพ้ไปกว่าตัวเธอนั้นคือ ชีวิตของเธอ
ภาพจากอีจัน
คุณซูซี่เล่าว่า “การเป็นผู้หญิงผิวสีในสังคมไทยไม่ใช่เรื่องง่าย” สำหรับคนอื่นเธอไม่รู้ แต่สำหรับเธอมันหนักมากเหมือนกัน แต่เธอดีใจที่เธอเอาชนะมันมาได้ ด้วยตัวเอง เธอส่องกระจกทุกวัน ย้ำกับตัวเองทุกวัน คนในกระจกคือตัวฉัน ฉันคือคนผิวสี จะให้เป็นคนผิวขาวมันเป็นไปไม่ได้ ผมฉันเป็นแบบนี้ หน้าฉันเป็นแบบนี้ มันต้องมีอะไรที่เข้ากับฉัน แป้งมีหลายแบบ รองพื้นมีหลายเฉด เสื้อผ้ามีหลายไซร์หลายสี อย่ากังวล เธอสวยได้ แค่เธอเลือกที่จะสวยแบบไหน เธอย้ำกับตัวเองและยอมรับมัน
ภาพจากอีจัน
แน่นอนในความคิดของเรากับสังคม มักไม่ตรงกัน บ่อยครั้งที่เธอถูกบูลลี่และเหยียด ทั้งคำพูด การกระทำ และสายตา ตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยนับว่ากี่ครั้งเพราะมันนับไม่ถ้วนจริงๆ มันเยอะจนล้น แต่เธอเก่งและผ่านมันมาได้ เธอเล่าพร้อมกับใส่อารมณ์กับจันว่า “คิดดูสิคะ สังคมที่บอกไม่มีการเหยียด แต่พอเห็นเรามองด้วยสายตาแปลกๆ เราขึ้นรถเมล์เขาลุกหนีเรา เหมือนเราเป็นตัวประหลาด ให้เราออกจากงานเพราะบอกว่าบุคลิกเราไม่เข้ากับงาน ทั้งที่เราตั้งใจทำงานมากๆ เพื่อนด่าเราเหยียดเราสารพัด เพราะเราแค่มีผิวที่ไม่เหมือนพวกเขา ทุกครั้งที่โดนเหยียด คิดทุกครั้งเราไปทำอะไรให้พวกเขาไม่พอใจ ทำไมถึงทำกับเราแบบนี้ แต่ทั้งหมดนี้ซูซี่ไม่เคยเก็บมาใส่ใจ ชีวิตต้องดำเนินด้วยตัวเอง ไม่ใช่ดำเนินไปด้วยความคิดของคนอื่น แล้วเราจะมีความสุขได้ยังไง”
ภาพจากอีจัน
เวลาเธอถูกเหยียด เธอจะเลือกไม่เหยียดรูปร่างหน้าตากลับ เพราะเธอรู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน แต่เธอจะตอกกลับไปด้วยความคิดความของอีกฝ่าย “ต้องเป็นคนแบบไหน ถึงจ้องจะเหยียดแต่คนอื่น” และเดินเชิดๆ กลับมา จันชอบในความเป็นเธอ ชอบในความคิด ทัศนคติ เธอบอกกับจันว่าไม่ทุกครั้งที่ต้องชนะคนพวกนั้น แต่แค่ชนะบ้าง เราจะแพ้เขาทุกครั้งมันก็ไม่ใช่ เขาไม่มีสิทธิ์มาเหยียดเรา
ภาพจากอีจัน
ก่อนที่ซูซี่จะทิ้งท้ายกับจันว่า ไม่ว่าเราจะเป็นคนสีผิวไหน รูปร่างแบบไหน เราเลือกเองได้ ตรงไหนไม่ดีก็ปรับ ให้มันพอดี แต่สิ่งที่คิดว่ามันแก้กันยาก คือความคิด และทัศนคติของคน ตอนนี้ซูซี่กลายเป็นอีกหนึ่งไอดอลของหลายๆคน มีหลายงานติดต่อเธอเข้ามา และเธอกำลังจะเป็นที่รู้จักขึ้นไปอีก หลายๆสิ่งในชีวิตเธอกำลังจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งเดียวที่เธอบอกว่าไม่มีทางเปลี่ยน “คือตัวเธอเอง และความคิดของเธอ”