ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ตามจับ 2 หนุ่มตระเวนลักมอเตอร์ไซค์ อ้างดูวิธีจากยูทูป

ขโมยแล้วแอบ คิดเหรอจะรอด! ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ตามรวบ 2 หนุ่มตระเวนลักมอเตอร์ไซค์คาห้องพัก ขายเอาเงินมาเสพยา อ้างดูวิธีจากยูทูป

วันนี้(13 มิ.ย. 63) พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว พร้อมด้วย พ.ต.ท.สถาปนา จุณณวัตต์ รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว , พ.ต.ต.อัสนี ตระกูลฐิติทรัพย์ และ พ.ต.ต.ชาติชาย ดำรัสการ สว.สส.สน.ลาดพร้าว ร่วมกันนำกำลังจับกุม นายชัยวัฒน์ หรือมาร์ค จันทร์เจริญ อายุ 21 ปี และนายชัยชาญ หรือรุ่ง กำไมล์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตระเวนลักรถจักรยานยนต์ตามอพาร์ตเม้นท์ พร้อมของกลางอุปกรณ์งัดแงะ และกุญแจรถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง โดยจับกุมที่บริเวณกลางหมู่บ้านวงศกร 5 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

ภาพจากอีจัน
สืบเนื่องจากตำรวจนครบาลลาดพร้าว ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็มสแลช สีขาวดำ ทะเบียน 9กม1104 กรุงเทพมหานคร ได้หายไปจากลานจอดรถอพาร์ตเม้นท์ ในซอยนวมินทร์ 69 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาลลาดพร้าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบรูปพรรณคนร้ายอย่างชัดเจน กระทั่งทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายชัยชาญ หรือรุ่ง พักอาศัยอยู่บริเวณกลางหมู่บ้านวงศกร 5 ถนนหทัยราฎร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ จึงนำกำลังไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลาง ตลอดจนขยายผลจับกุมนายชัยวัฒน์ หรือมาร์ค ผู้ร่วมก่อเหตุไว้ได้ด้วย ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การยอมรับสารภาพว่า ทั้งสองไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และติดยาเสพติด หนำซ้ำ นายชัยชาญ หรือรุ่ง มีลูกที่เพิ่งคลอดได้เพียง 6 เดือน ทำให้มีความต้องการใช้เงิน จึงศึกษาวิชาการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ จากในเว็บไซต์ยูทูป จึงทำการดัดแปลงอุปกรณ์งัดแงะ และฝึกจนช่ำชอง จากนั้นพากันตระเวนไปตามหอพัก อพาร์ตเม้นท์ ที่มีลานจอดรถจักรยานยนต์ จอดเรียงกันหลายๆคัน และไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา จากนั้นนายชัยชาญ หรือรุ่ง จะตีเนียนเป็นเจ้าของรถเข้าไปลงมือก่อเหตุ โดยมีนายชัยวัฒน์ หรือมาร์ค เป็นคนดูต้นทาง และมักจะเลือกรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็มที 15 และรุ่นเอ็มสแลช เป็นหลัก เนื่องจากเป็นรุ่นที่นิยมในท้องตลาด ก่อนจะนำไปขายตกราคาคันละ 30,000 บาทเท่านั้น และนำเงินที่ได้ไปซื้อยามาเสพ ทั้งนี้คนร้ายกลุ่มนี้ยังอาศัยช่วงที่ทางรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายเคอร์ฟิว ห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถาน ทำให้เลือกช่วงเวลาลงมือก่อเหตุให้แล้วเสร็จก่อนช่วงเวลาหวงห้ามออกนอกเคหะสถาน เพราะผู้เสียหายจะไม่ทราบว่าทรัพย์สินได้หายไปแล้ว กว่าจะทราบก็พ้นช่วงเวลานั้นไปนานแล้ว อีกทั้งยังหลบเลี่ยงการตรวจค้นของทางตำรวจอีกด้วย
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ ผู้ต้องหายอมรับว่าได้ลงมือก่อเหตุในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว 4 ครั้ง สน.บางเขน 1 ครั้ง และสน.ทุ่งสองห้อง 1 ครั้ง ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายกลุ่มนี้ลงมือก่อเหตุ สามารถตรวจสอบได้ที่ สน.ลาดพร้าว เบื้องต้นตำรวแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ หรือ รับของโจร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป