ตำรวจยังสู้! 1 เดือนผ่านไป คดี น้องชมพู่ ยังไม่จบ ตร.ยังเร่งล่าคนร้ายพลิกจังหวัด #คดีน้องชมพู่

14 มิ.ย.63 ครบ 1 เดือน คดีน้องชมพู่ วันนี้ยังไร้ตัวผู้ต้องหา แต่ น้า กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัย เจ้าตัวท้อ กลายเป็นคนร้ายฆ่าหลานตัวเอง

คดีน้องชมพู่ 1 เดือนผ่านไป ยังไร้วี่แวว คนร้าย…
วันนี้ (14 มิ.ย.63) ครบรอบ 1 เดือนแล้ว กับคดีสะเทือนใจชาวมุกดาหาร หลังเด็กหญิงชมพู่ วัย 3 ขวบ หายตัวออกจากบ้าน นาน 4 วัน (11 – 14 พ.ค.63) ก่อนถูกพบเป็นศพ นอนเสียชีวิตในสภาพเปลือยบนเนินเขาภูเหล็กไฟห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร

ภาพจากอีจัน
ตำรวจคาดมีคนพาไป เพราะจุดที่พบศพ เด็กวัยเพียง 3 ขวบไม่น่าจะเดินขึ้นไปเองได้ไกลขนาดนั้น แม้จะเป็นเพียง 4 กิโลเมตร แต่เป็น 4 กิโลเมตรที่ต้องเดินขึ้นเขา ฝ่าดงหญ้าสูง ประเด็นนี้ ครอบครัว ยืนยัน ไม่เชื่อ!
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
หลังจากผลชันสูตรศพ น้องชมพู่ ครั้งแรก ระบุว่าไม่พบร่องรอยการถูกทำร่างกาย หรือถูกล่วงละเมิด บริเวณช่องคลอด และทวารหนัก พบเพียงของเหลวประมาน 10 ซีซี ในกระเพาะอาหารเท่านั้น ซึ่งผลการชันสูตรครั้งนั้น ครอบครัวน้องชมพู่ ติดใจ จึงส่งศพ น้องชมพู่ มาชันสูตรอีกครั้งที่ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ 18 พ.ค.63 ผลชันสูตรรอบสองออก พบบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ และพบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งผลการชันสูตรนี้ ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ แพทย์จึงเก็บตัวอย่างของเหลวในช่องคลอดไปตรวจหาอสุจิอย่างละเอียด ส่วนร่องรอยบาดแผลที่พบ แพทย์ได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากชิ้นเนื้อสามารถระบุได้ว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากการถูกทุบตีหรือกดทับ หรือมีการลากร่างกายเกิดขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ แพทย์ยังเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อนำไปตรวจหาสารเสพติด และสารพิษ เพื่อตรวจสอบว่า น้องชมพู่ถูกวางยาหรือไม่ ซึ่งวันนั้น 18 พ.ค.63 แพทย์วางระยะเวลาในการตรวจสอบคือ 30 วัน ที่ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจะออก แต่หากนับจากวันนี้ 14 มิ.ย.63 ก็คงเหลือเพียงอีก 4 วัน ที่ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจะออก
ภาพจากอีจัน
วันนี้ อีจัน ติดตามความคืบหน้าจากตำรวจที่ทำคดีนี้ ได้ข้อมูลว่า ในตอนนี้ ทางตำรวจ สภ.กกตูม เป็นฝ่ายสนับสนุนคดี โดยตำรวจส่วนกลางของจังหวัดมุกดาหาร เป็นหลักในการติดตามคดีต่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงทำงานอย่างเต็มที่ตลอด 1 เดือน ที่ผ่านมา เนื่องจากคดีนี้ค่อนข้างซับซ้อน พยานหลักฐานน้อยมาก สถานที่เกิดเหตุก็เป็นพื้นที่ชุมชน และในป่า เพื่อความรอบคอบของคดี ตำรวจจึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ครบถ้วน
ภาพจากอีจัน
แต่ ณ ขณะนี้ ผู้ต้องสงสัยอับดับ 1 กลับเป็น น้า ของน้องชมพู่ ซะเอง ทำไม น้าถึงต้องเป็นผู้ต้องสงสัย นายไชย์พล วิภา หรือ น้าพล ซึ่งเป็นคนพาศพน้องชมพู่มาชันสูตรรอบสอง ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เปิดใจว่า ตนเองกังวลมาก หลังจากถูกตำรวจนำตัวไปสอบปากคำหลายรอบ ส่วนที่ตำรวจพบหลักฐานกระสอบปุ๋ยบนเขาภูเหล็กไฟ และมาพบว่า กระสอบปุ๋ยเป็นแบบเดียวกับที่บ้านตนมี ซึ่งจริงๆ แล้วกระสอบที่พบนั้น เป็นกระสอบปุ๋ยยี่ห้อหนึ่ง ที่ชาวสวนชาวไร่แถวนี้ใช้กันหลายบ้าน ไม่ใช่แค่บ้านตนบ้านเดียว
ภาพจากอีจัน
น้าพล บอกกับอีจันอีกว่า ตัวเองได้ออกตามหาน้องชมพู่ ตั้งแต่วันแรกที่หลานหายตัวไป กระทั่งถึงวันที่พบร่างของหลาน ตนขอยืนยันว่า ตนบริสุทธิ์ใจ พร้อมวอนให้ตำรวจจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว โดยหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย ตนได้โกนผมและคิ้วออกตามความเชื่อส่วนตัว เมื่อมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาจะทำปีละครั้ง เพื่อให้สิ่งที่ไม่ดีออกไป คิดอยากจะบวช แต่คงไม่มีวัดไหนรับ และอาจจะมองว่าตนหนีคดี
ภาพจากอีจัน
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังคงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป อีจันขอเป็นกำลังใจให้ทีมตำรวจสามารถเร่งคลี่คลายคดีได้โดยเร็ว นะคะ แต่คดีน้องชมพู่ ต้องไม่เงียบ