เผยแพร่เมื่อ : 11 ม.ค. 2564, 18:51
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน2563 นางอำไพ โพธิ์ประสิทธิ์ อายุ 60 ปี พร้อมนายสามารถ โพธิประสิทธิ์ อายุ 58 ปี ผู้เป็นสามี เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หลังจากเมื่อปี 2558 ลุงสามารถไปค้ำประกันรถซื้อรถกระบะ ให้นายภาดา (ขอสงวนนามสกุล) ที่มีความจำเป็นต้องใช้รถไปทำธุรกิจ ด้วยความที่สงสารเลยเซ็นค้ำประกันให้ ในราคา 800,000บาท แต่หลังจากนั้นไม่นาน นายภาดาก็ขาดส่งค่างวดจนรถถูกยึด ซึ่งลุงสามารถและนายภาดาถูกฟ้องในส่วนต่างที่ขาดหายไปในตัวรถอีก 80,000 บาท เมื่อปี 2561 โดยลุงสามารถได้สอบถามเรื่องดังกล่าวกับนายภาดา ซึ่งนายภาดาบอกว่า ตอนนี้เจรจาประนอมหนี้กันแล้วไม่ต้องห่วง
ภาพจากอีจัน
กระทั่งเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 มีหมายจากกรมบังคับคดีจังหวัดสระบุรี แจ้งว่า บ้านที่ตนเองและครอบครัวอาศัยมานานได้ถูกยึดอายัดและขายทอดตลาดไปแล้ว สืบเนื่องจากที่คนซื้อรถปล่อยรถยึดและยังคงค้างจ่ายค่าส่วนต่างหลังศาลมีคำพิพากษาประมาณ 80,000 บาท จากทั้งหมด 200,000 กว่าบาท ไม่กี่วันหลังจากนั้นจากนั้นได้มีทนายคนหนึ่งถือสัญญาซื้อ-ขายบ้านหลังที่ลุงสามารถกับป้าอำไพอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยทนายคนนี้ซื้อบ้านหลังนี้มาในราคา 130,000 บาท แจ้งให้ลุงกับป้าและครอบครัวที่มีหลานอายุ 2 ขวบ และผู้สูงอายุให้ย้ายออกจากบ้านพร้อมทั้งขู่ว่า หากเพิกเฉยจะแจ้งตำรวจจับในข้อหาบุกรุก และยังยื่นข้อเสนอต่อว่าถ้าไม่อยากย้ายออกก็ให้หาเงินมาซื้อบ้านในราคา 870,000 บาท ทำให้ป้าอำไพเกิดความกังวลใจ บวกกับไม่มีความรู้ทางเรื่องข้อกฎหมายจึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อทนายรณณรงค์
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ ป้าอำไพ ได้พยายามติดต่อคนซื้อรถเพื่อขอเจรจาให้ช่วยเหลือในส่วนของค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าว แต่ได้รับคำตอบสั้นๆ จากคนซื้อรถว่า "ยินดีที่จะรับผิดชอบในจำนวนเงินดังกล่าว แต่ตอนนี้ ยังไม่มีเงิน" และขอเจรจากับป้าอำไพเป็นการส่วนตัว
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้มีทนายดูแลอยู่แล้ว โดยทนายได้ยื่นคัดค้านก่อนที่จะมีการขายทอดตลาด เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ยื่นขอให้ศาลสั่งเพิกถอนในแง่ของการค้ำประกันรถยนต์ การที่เราเข้าไปรับประกันว่าจะใช้เงินแทน หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ผู้ค้ำต้องชดใช้หนี้แทน ในขั้นตอนของการสืบทรัพย์บังคับคดีเจ้าหนี้ หากผู้ค้ำประกันหรือลูกหนี้มีทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์เจ้าหนี้จะดำเนินการตั้งเรื่องเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมายทันที
ภาพจากอีจัน
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ทำมา ตามขั้นตอนทางกฎหมาย ไปค้ำประกันหนี้ให้ใครแล้วเขาไม่จ่ายเราก็ต้องจ่ายแทน ทั้งนี้ ทนายรณณรงค์ยังฝากเตือนไปถึงพี่น้องประชาชนว่าจะค้ำประกันใคร ต้องเป็นญาติกัน ต้องไว้ใจ และดูว่ามีศักยภาพในการชำระหนี้ได้หรือไม่